ปะยางรถยนต์ราคาเท่าไหร่ มีกี่วิธี ต้องเลือกปะแบบไหนถึงจะปลอดภัย
หนึ่งปัญหาที่ผู้ใช้รถใช้ถนนมักประสบอยู่บ่อยครั้ง นั่นคือ ยางรั่ว ยางแบน ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ การขับขี่บนพื้นถนนที่เต็มไปด้วยเศษวัสดุ เช่น ตะปู น็อต เศษเหล็ก หรือของแหลมคมต่าง ๆ ไปจนถึงการเสื่อมสภาพของยางรถยนต์ที่มีการใช้งานมายาวนาน ส่งผลให้ผู้ใช้รถต้องเสียเวลานำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อทำการปะยางซ่อมรอยรั่ว สำหรับผู้ใช้รถรายใหม่อาจยังไม่ทราบเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายการปะยางรถยนต์ราคาเท่าไหร่ เลือกปะยางแบบไหนดี และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหรือไม่ เราได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับราคาปะยางรถยนต์มาฝาก ให้คุณหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและใช้งานรถยนต์อย่างปลอดภัย
ปะยางรถยนต์ราคาเท่าไหร่
การปะยางรถยนต์มีราคาแตกต่างกันตามเทคนิคที่ใช้และผู้ให้บริการ โดยทั่วไปมีราคาเฉลี่ย ดังนี้
- ปะยางแบบแทงใยไหม : ราคาประมาณ 70 – 100 บาท
- ปะยางแบบสตรีมร้อน : ราคาประมาณ 150 – 300 บาท
- ปะยางแบบสตรีมเย็น : ราคาประมาณ 150 – 300 บาท
ราคาอาจแตกต่างกันไปตามร้านและพื้นที่ให้บริการ รวมถึงขนาดของรอยรั่วที่ต้องซ่อมแซม
ปะยางรถยนต์มีกี่วิธี? แตกต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนใช้งานปลอดภัย
การปะยางรถยนต์นั้นมีความเหมาะสมที่แตกต่างกันไปแต่ละสถานการณ์ อายุการใช้งานยาวนานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ประเภทของการปะยางเช่นเดียวกัน โดยการปะยางรถยนต์นั้นปัจจุบันการปะยางมีทั้งหมด 3 แบบ คือ การปะยางแบบแทงไหม การปะยางแบบสตรีมเย็น และการปะยางแบบสตรีมร้อน ซึ่งการปะยางแต่ละประเภทมีข้อดี – ข้อจำกัดที่แตกต่างกันออกไป โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้
การปะยางแบบแทงไหม
การปะยางรถยนต์ แบบแทงไหมเป็นการปะยางแบบชั่วคราว เหมาะสำหรับรถยนต์ที่ขับไปเหยียบตะปูหรือเศษเหล็กแหลม โดยช่างจะดึงสิ่งที่ตำยางรถยนต์ออก จากนั้นใช้ตะไบหางหนูทะลวงแผลให้ขยายออกสำหรับแทงไหม หลังจากนั้นอุดรูรั่วด้วยการแทงไหมเข้าไปในรูรั่ว
การปะยางรถยนต์แบบแทงไหม ช่วยแก้ปัญหายางรั่วได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำได้ด้วยตัวเอง แต่อาจไม่เหมาะสำหรับบาดแผลขนาดใหญ่ หากเป็นเช่นนั้นแนะนำร้านหรือศูนย์บริการปะยางรถยนต์
วิธีการ
- ตรวจตำแหน่งรอยรั่ว
- ใช้คีมหรือมือดึงสิ่งแปลกปลอมออกจากยาง
- ใช้ตะไบหางหนูหรือสว่านเบอร์เล็กขยายรูให้กว้างขึ้นเล็กน้อย
- เตรียมใยไหมโดยชุบกาวพิเศษให้ทั่ว
- สอดใยไหมที่ชุบกาวเข้าไปในรูที่เตรียมไว้ โดยใช้เครื่องมือสอดไส้
- ดึงเครื่องมือออก ทิ้งใยไหมไว้ในรู
- ตัดส่วนเกินของใยไหมที่โผล่ออกมาด้วยกรรไกร
- รอให้กาวแห้งสนิทก่อนใช้งาน
ข้อดี
- ทำได้ง่าย รวดเร็ว
- อุปกรณ์หาซื้อง่าย
- เหมาะสำหรับซ่อมฉุกเฉิน
- ไม่ต้องถอดล้อออก
ข้อเสีย
- ไม่ทนทาน อาจต้องซ่อมใหม่บ่อยครั้ง
- ไม่เหมาะกับรอยรั่วใหญ่
- ไม่ควรใช้กับแก้มยางและไหล่ยาง
- อาจเกิดการรั่วซึมในระยะยาว
การปะยางแบบสตรีมเย็น
การปะยางแบบสตรีมเย็น เหมาะสำหรับการปะรอยรั่วจากตะปู รอยฉีกขาดขนาดเล็ก ไปจนถึงรอยรั่วจากสิ่งแหลมคม โดยช่างจะทำการขัดผิวยางรอบรูรั่วให้สากและทากาวแบบพิเศษลงไป จากนั้นใช้แผ่นยางขนาดเล็กแปะลงไปเพื่ออุดรอยรั่วยางเป็นอันเสร็จเรียบร้อย วิธีปะยางประเภทนี้ช่วยสมานรอยรั่วไม่ให้มีลมรั่วออกมา ที่สำคัญสามารถใช้ได้กับรถยนต์ทุกประเภท
วิธีการ
- ถอดล้อออกจากรถยนต์
- ปล่อยลมยางออกให้หมด
- ถอดยางออกจากกระทะล้อ
- ทำความสะอาดบริเวณรอยรั่วด้านในยาง
- ใช้กระดาษทรายขัดผิวยางบริเวณรอยรั่วให้สาก
- ทากาวยางพิเศษลงบนบริเวณที่ขัดไว้
- วางแผ่นยางพิเศษลงบนรอยรั่วที่ทากาวไว้
- ใช้ลูกกลิ้งหรือเครื่องมือทุบให้แผ่นยางติดแน่นกับยางเดิม
- ทิ้งไว้ให้กาวแห้งสนิท
- ประกอบยางกลับเข้ากับกระทะล้อ
- เติมลมยางและตรวจสอบการรั่วซึม
- นำล้อกลับไปติดตั้งกับรถยนต์และตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่
ข้อดี
- ไม่ทำให้ยางเสียทรงจากความร้อน
- เหมาะกับรอยรั่วขนาดกลาง
- ทนทานกว่าการปะยางแบบแทงใยไหม
ข้อเสีย
- ใช้เวลานานในการซ่อม
- ต้องถอดล้อและยางออก
- อาจไม่เหมาะกับการบรรทุกของหนักมาก
- ต้องใช้ฝีมือในการปะยางมากกว่าวิธีอื่น
การปะยางแบบสตรีมร้อน
การปะยางแบบสตรีมร้อนคล้ายกับการปะยางแบบสตรีมเย็น เป็นการปะยางจากด้านใน โดยใช้วัสดุยางแผ่นชิ้นขนาดเล็ก ซึ่งด้านหลังมีตัวทำละลายความร้อนติดอยู่ โดยช่างจะนำกระดาษทรายขัดผิวรอบ ๆ รูรั่ว จากนั้นทากาวลงไปก่อนใช้ชุดสตรีมยางปะอีกที ช่วยปิดรอยรั่วได้ดี เหมาะสำหรับยางที่โดนตะปู เศษแก้ว น๊อต หรือเหล็กแหลม (ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก) หลังปะเสร็จสามารถใช้งานได้ตามปกติ
วิธีการ
- ถอดล้อออกจากรถยนต์
- ปล่อยลมยางออกให้หมด
- ถอดยางออกจากกระทะล้อ
- ทำความสะอาดบริเวณรอยรั่วด้านในยาง
- ใช้กระดาษทรายขัดผิวยางบริเวณรอยรั่วให้สาก
- วางแผ่นยางพิเศษที่มีตัวละลายความร้อนลงบนรอยรั่ว
- ใช้เครื่องกดความร้อนกดทับแผ่นยางพิเศษ
- รอให้เย็นลงและตรวจสอบการยึดติด
- ประกอบยางกลับเข้ากับกระทะล้อ
- เติมลมยางและตรวจสอบการรั่วซึม
- นำล้อกลับไปติดตั้งกับรถยนต์และตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่
ข้อดี
- ทนทานกว่าการปะยางแบบแทงใยไหม
- เหมาะกับรอยรั่วขนาดใหญ่
- สามารถใช้งานได้จนยางหมดอายุ
ข้อเสีย
- ใช้เวลานานในการซ่อม
- ต้องถอดล้อและยางออก
- อาจทำให้ยางเสียทรงได้หากใช้ความร้อนมากเกินไป
- ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง
จะรู้ได้อย่างไรว่าควรปะยางรถยนต์แบบไหนดี
การเลือกวิธีปะยางที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เริ่มจากการประเมินขนาดและตำแหน่งของรอยรั่ว หากเป็นรูเล็กจากตะปูหรือเศษโลหะ การแทงใยไหมอาจเพียงพอสำหรับการซ่อมชั่วคราว แต่ถ้ารอยรั่วค่อนข้างใหญ่ ควรเลือกวิธีสตรีม นอกจากนี้ ต้องพิจารณาถึงความเร่งด่วนในการซ่อม ระยะเวลาที่ต้องการใช้งานหลังซ่อม และงบประมาณ หากต้องการความคงทนระยะยาว การปะแบบสตรีมจะเหมาะสมกว่า แต่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า
ข้อควรระวังในการปะยางรถยนต์
หากยางเกิดความเสียหายบริเวณแก้มยางหรือไหล่ยาง ไม่ควรเลือกปะหรือซ่อมแซมเด็ดขาด เนื่องจากบริเวณนี้รับแรงกดและแรงบิดสูงขณะขับขี่ อีกทั้งโครงสร้างของยางในส่วนนี้บางและอ่อนแอกว่าส่วนอื่น การปะยางรถยนต์ไม่สามารถคืนความแข็งแรงให้โครงสร้างยางได้อย่างสมบูรณ์ จึงเสี่ยงต่อการระเบิดขณะขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูงหรือบรรทุกน้ำหนักมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้น เมื่อพบความเสียหายในบริเวณดังกล่าว ควรเปลี่ยนยางใหม่ทันทีเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
รถยนต์ยางรั่ว ยางแบน ขับต่อได้ไหม เสี่ยงอันตรายหรือเปล่า
หากเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่แนะนำให้ขับรถยนต์ที่ยางรั่ว เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อจากรถยนต์ที่สภาพไม่สมบูรณ์ สิ่งที่ควรทำเมื่อรู้ว่ายางรถยนต์รั่วก็คือตั้งสติแล้วหาที่จอดรถที่ปลอดภัย ไม่ควรจอดริมถนนที่นอกจากจะขัดขวางการจราจรแล้ว อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ทุกเมื่ออีกด้วย หลังจากนั้นซ่อมแซมเบื้องต้นด้วยชุดปะยางฉุกเฉิน หรือเปลี่ยนยางอะไหล่สำรอง หากจำเป็นต้องขับรถไปที่ร้านทั้งที่ยังไม่ได้ซ่อมแซมควรเช็กเส้นทางไปร้านซ่อมให้ดีไม่ควรเป็นระยะไกล และขับด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด
สามารถป้องกันเหตุการณ์สุดวิสัยนี้ได้ด้วยการหมั่นตรวจเช็กสภาพรถสม่ำเสมอ อย่างน้อยให้ตรวจสอบความดันลมยาง ความสมบูรณ์ล้อ และตัวยางว่ามีสภาพยางที่สมบูรณ์หรือไม่ เช่น มีสิ่งของมีคมอย่างตะปู เศษแก้ว ตำที่ล้ออยู่หรือไม่ อีกทั้งขับขี่ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น เขตก่อสร้าง หลุมบ่อ เป็นต้น
อุปกรณ์ปะยางที่สำคัญมีอะไรบ้าง
กาวปะยาง
กาวปะยาง เป็นสารเคมีที่ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้ซ่อมรอยรั่วของยางรถยนต์ ภายในกาวประกอบไปด้วย ยาง เรซิน และสารละลายประเภทโทลูอีน ซึ่งกาวปะยางจะให้ความทนทานสูงกว่ากาวทั่วไป ช่วยอุดรอยรั่วของยางได้แนบสนิทและใช้งานได้ยาวนาน
แผ่นปะยาง
แผ่นปะยาง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานคู่กับกาวปะยางเพื่ออุดรอยรั่ว สามารถแบ่งได้ 2 ชนิดตามการใช้งานคือ แผ่นปะยางแบบร้อน และแผ่นปะยางแบบเย็น
ชุดแทงหนอน
ชุดแทงหนอน เป็นอุปกรณ์ซ่อมแบบฉุกเฉิน ใน 1 ชุดประกอบไปด้วย แข็งแทงยาง ไหมปะยาง กาว และเหล็กร้อยไหม ซึ่งวิธีใช้ให้นำเข็มแทงยางขยายรูรั่ว จากนั้นให้นำเหล็กพร้อมร้อยไหมอุดที่รูและใช้กาวปะเอาไว้ เพื่อการอุดรอยรั่วแบบชั่วคราว หลังจากนั้นควรหาร้านปะยางเพื่อจัดการปะให้เรียบร้อย
เตาปะยาง
เตาปะยาง เป็นอุปกรณ์ซ่อมสำหรับการปะด้วยวิธีสตรีมยาง ใช้ได้ทั้งการปะยางสตรีมร้อนและสตรีมเย็น สามารถตั้งระดับความร้อนในการปะยางได้หลายระดับ และใช้ระบบลมควบคุมการอัดยาง
เช็กราคาปะยางรถยนต์แต่ละประเภท จ่ายสบาย ขับขี่ปลอดภัย
ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าการปะยางรถยนต์มีทั้งแบบแทงไหม แบบสตรีมเย็น และแบบสตรีมร้อน ซึ่งแต่ละประเภทมีขั้นตอนการปะที่ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับบาดแผลหรือรอยรั่วนั้น ๆ โดยทั่วไปทางร้านหรือศูนย์บริการจะทำการประเมินบาดแผลยางว่าเหมาะสำหรับการปะแบบไหนมากที่สุด ส่วนของราคาปะยางขึ้นอยู่กับประเภทการปะ โดยการปะยางแบบแทงไหมค่าบริการต่อแผลประมาณ 70-100 บาท และการปะยางแบบสตรีมค่าบริการต่อแผลประมาณ 150-300 บาท ส่วนราคาด้านอื่น ๆ อาจมีการคิดบริการเพิ่มเติม โดยขึ้นอยู่กับศูนย์บริการซ่อมรถ
หากยางรถยนต์เกิดรอยรั่วขนาดใหญ่ รอยรั่วบริเวณแก้มยาง ไปจนถึงยางเสื่อมสภาพ แนะนำให้เปลี่ยนยางรถยนต์เส้นใหม่จะดีกว่า “เน็กเซ็น” ผู้ผลิตยางรถยนต์รายแรกของประเทศเกาหลีใต้ รับประกันคุณภาพการผลิตให้ตลอดอายุการใช้งาน ที่สำคัญยางรถยนต์ NEXEN TIRE รับประกันเปลี่ยนฟรี 1 ปี เมื่อเปลี่ยนยางใหม่ 4 เส้นขึ้นไป (ต่อรถ 1 คัน ใน 1 ใบเสร็จ) พร้อมติดตั้งฟรีทั่วประเทศ ณ ร้านตัวแทนจำหน่ายยางใกล้บ้านคุณ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Nexen Thailand หรือ Facebook Inbox : m.me/NEXENTH หรือสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้ที่ Shopee กับ Lazada