ปะยางรถยนต์ มีกี่วิธี จะรู้ได้อย่างไรว่าต้องเลือกแบบไหน
ความปลอดภัยขณะขับรถเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวที่หลายครอบครัวใช้รถยนต์ในการเดินทางข้ามจังหวัดเพื่อท่องเที่ยวพักผ่อน ซึ่งสำหรับรถยนต์ที่ไม่ได้ตรวจเช็กสภาพนั้นอาจมีสิทธิ์เกิดปัญหาด้านยางทำให้เกิดรถยางรั่วระหว่างทางได้ หรือแม้แต่ถนนที่เต็มไปด้วยสิ่งขรุขระอาจเป็นสาเหตุทำให้ยางรถยนต์นั้นรั่วได้ เช่น ตะปู นอต ของแหลม ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากนักที่ผู้ขับขี่จะสามารถมองเห็นได้
ถึงอย่างนั้นยางรถยนต์รั่วก็ไม่ใช่สิ่งที่เกินรับมือได้ สามารถแก้ไขได้ง่ายด้วยวิธีการปะยางรถยนต์ ซึ่งใช้เวลาซ่อมแซมไม่นานนัก ราคาไม่สูงมาก และมีบริการอยู่ทั่วไป ซึ่งการปะยางรถยนต์รั่วมีด้วยกันหลายแบบซึ่งแต่ละแบบก็ต่างมีเงื่อนไขและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป
ปะยางรถยนต์มีกี่แบบ แตกต่างกันอย่างไร
การปะยางรถยนต์นั้นมีความเหมาะสมที่แตกต่างกันไปแต่ละสถานการณ์ อายุการใช้งานยาวนานหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่ประเภทของการปะยางเช่นเดียวกัน โดยการปะยางรถยนต์นั้นมีด้วยกัน 2 วิธี คือ การปะยางรถยนต์แบบแทงใยไหม การปะยางรถยนต์สตรีม
การปะยางแบบแทงใยไหม
การปะยางแบบแทงใยไหมเป็นวิธีซ่อมยางรั่วที่ง่ายและรวดเร็ว เหมาะสำหรับรอยรั่วขนาดเล็กหรือใช้ชั่วคราว โดยใช้ใยไหมชุบกาวอุดรอยรั่ว แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานระยะยาว
วิธีการ
- ตรวจตำแหน่งรอยรั่ว
- ใช้คีมหรือมือดึงสิ่งแปลกปลอมออกจากยาง
- ใช้ตะไบหางหนูหรือสว่านเบอร์เล็กขยายรูให้กว้างขึ้นเล็กน้อย
- เตรียมใยไหมโดยชุบกาวพิเศษให้ทั่ว
- สอดใยไหมที่ชุบกาวเข้าไปในรูที่เตรียมไว้ โดยใช้เครื่องมือสอดไส้
- ดึงเครื่องมือออก ทิ้งใยไหมไว้ในรู
- ตัดส่วนเกินของใยไหมที่โผล่ออกมาด้วยกรรไกร
- รอให้กาวแห้งสนิทก่อนใช้งาน
ข้อดี
- ทำได้ง่าย รวดเร็ว
- อุปกรณ์หาซื้อง่าย
- เหมาะสำหรับซ่อมฉุกเฉิน
- ไม่ต้องถอดล้อออก
ข้อเสีย
- ไม่ทนทาน อาจต้องซ่อมใหม่บ่อยครั้ง
- ไม่เหมาะกับรอยรั่วใหญ่
- ไม่ควรใช้กับแก้มยางและไหล่ยาง
- อาจเกิดการรั่วซึมในระยะยาว
การปะยางแบบสตรีม
การปะยางรถยนต์สตรีมจะต้องถอดยางออกมาเพื่อปะรอยรั่วด้านใน เป็นวิธีที่ซ่อมแซมได้ตั้งแต่รูเล็ก ๆ ไปจนถึงรอยฉีกขาด ข้อดีของวิธีนี้คือสามารถปะรูรั่วได้สนิท มีความคงทนกว่าการปะยางแบบแทงใยไหม สามารถใช้งานได้จนยางรถยนต์หมดสภาพ แต่มีข้อเสียคือใช้การใช้เวลาปะยางค่อนข้างยาวนาน เนื่องจากต้องถอดล้อออกมาและต้องตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่ อีกทั้งมีโอกาสที่รอยปะยางนั้นจะหลุดร่อนหากเจอความร้อนสูงอีกด้วย
โดยการปะยางสตรีมวิธีนี้มีด้วยกัน 2 แบบ คือ การปะยางรถยนต์แบบสตรีมร้อน และ การปะยางรถยนต์แบบสตรีมเย็น
การปะยางแบบสตรีมร้อน
การปะยางแบบสตรีมร้อนเป็นวิธีที่ให้ความทนทานสูงกว่าแบบแทงใยไหม โดยใช้ความร้อนในการสมานแผ่นยางพิเศษกับยางเดิม เหมาะสำหรับรอยรั่วขนาดกลางถึงใหญ่
วิธีการ
- ถอดล้อออกจากรถยนต์
- ปล่อยลมยางออกให้หมด
- ถอดยางออกจากกระทะล้อ
- ทำความสะอาดบริเวณรอยรั่วด้านในยาง
- ใช้กระดาษทรายขัดผิวยางบริเวณรอยรั่วให้สาก
- วางแผ่นยางพิเศษที่มีตัวละลายความร้อนลงบนรอยรั่ว
- ใช้เครื่องกดความร้อนกดทับแผ่นยางพิเศษ
- รอให้เย็นลงและตรวจสอบการยึดติด
- ประกอบยางกลับเข้ากับกระทะล้อ
- เติมลมยางและตรวจสอบการรั่วซึม
- นำล้อกลับไปติดตั้งกับรถยนต์และตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่
ข้อดี
- ทนทานกว่าการปะยางแบบแทงใยไหม
- เหมาะกับรอยรั่วขนาดใหญ่
- สามารถใช้งานได้จนยางหมดอายุ
ข้อเสีย
- ใช้เวลานานในการซ่อม
- ต้องถอดล้อและยางออก
- อาจทำให้ยางเสียทรงได้หากใช้ความร้อนมากเกินไป
- ต้องใช้อุปกรณ์เฉพาะทาง
การปะยางแบบสตรีมเย็น
การปะยางแบบสตรีมเย็นคล้ายกับแบบสตรีมร้อน แต่ไม่ใช้ความร้อนในการสมานยาง ทำให้ลดความเสี่ยงในการทำให้ยางเสียทรง เหมาะสำหรับรอยรั่วขนาดกลาง
วิธีการ
- ถอดล้อออกจากรถยนต์
- ปล่อยลมยางออกให้หมด
- ถอดยางออกจากกระทะล้อ
- ทำความสะอาดบริเวณรอยรั่วด้านในยาง
- ใช้กระดาษทรายขัดผิวยางบริเวณรอยรั่วให้สาก
- ทากาวยางพิเศษลงบนบริเวณที่ขัดไว้
- วางแผ่นยางพิเศษลงบนรอยรั่วที่ทากาวไว้
- ใช้ลูกกลิ้งหรือเครื่องมือทุบให้แผ่นยางติดแน่นกับยางเดิม
- ทิ้งไว้ให้กาวแห้งสนิท
- ประกอบยางกลับเข้ากับกระทะล้อ
- เติมลมยางและตรวจสอบการรั่วซึม
- นำล้อกลับไปติดตั้งกับรถยนต์และตั้งศูนย์ถ่วงล้อใหม่
ข้อดี
- ไม่ทำให้ยางเสียทรงจากความร้อน
- เหมาะกับรอยรั่วขนาดกลาง
- ทนทานกว่าการปะยางแบบแทงใยไหม
ข้อเสีย
- ใช้เวลานานในการซ่อม
- ต้องถอดล้อและยางออก
- อาจไม่เหมาะกับการบรรทุกของหนักมาก
- ต้องใช้ฝีมือในการปะยางมากกว่าวิธีอื่น
จะรู้ได้อย่างไรว่าควรปะยางรถยนต์แบบไหนดี
การเลือกวิธีปะยางที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เริ่มจากการประเมินขนาดและตำแหน่งของรอยรั่ว หากเป็นรูเล็กจากตะปูหรือเศษโลหะ การแทงใยไหมอาจเพียงพอสำหรับการซ่อมชั่วคราว แต่ถ้ารอยรั่วค่อนข้างใหญ่ ควรเลือกวิธีสตรีม นอกจากนี้ ต้องพิจารณาถึงความเร่งด่วนในการซ่อม ระยะเวลาที่ต้องการใช้งานหลังซ่อม และงบประมาณ หากต้องการความคงทนระยะยาว การปะแบบสตรีมจะเหมาะสมกว่า แต่ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายมากกว่า
ข้อควรระวังในการปะยางรถยนต์
หากยางเกิดความเสียหายบริเวณแก้มยางหรือไหล่ยาง ไม่ควรเลือกปะหรือซ่อมแซมเด็ดขาด เนื่องจากบริเวณนี้รับแรงกดและแรงบิดสูงขณะขับขี่ อีกทั้งโครงสร้างของยางในส่วนนี้บางและอ่อนแอกว่าส่วนอื่น การปะยางรถยนต์ไม่สามารถคืนความแข็งแรงให้โครงสร้างยางได้อย่างสมบูรณ์ จึงเสี่ยงต่อการระเบิดขณะขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อใช้ความเร็วสูงหรือบรรทุกน้ำหนักมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตได้ ดังนั้น เมื่อพบความเสียหายในบริเวณดังกล่าว ควรเปลี่ยนยางใหม่ทันทีเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
อุปกรณ์ปะยางที่สำคัญมีอะไรบ้าง
กาวปะยาง
กาวปะยาง เป็นสารเคมีที่ถูกคิดค้นมาเพื่อใช้ซ่อมรอยรั่วของยางรถยนต์ ภายในกาวประกอบไปด้วย ยาง เรซิน และสารละลายประเภทโทลูอีน ซึ่งกาวปะยางจะให้ความทนทานสูงกว่ากาวทั่วไป ช่วยอุดรอยรั่วของยางได้แนบสนิทและใช้งานได้ยาวนาน
แผ่นปะยาง
แผ่นปะยาง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานคู่กับกาวปะยางเพื่ออุดรอยรั่ว สามารถแบ่งได้ 2 ชนิดตามการใช้งานคือ แผ่นปะยางแบบร้อน และแผ่นปะยางแบบเย็น
ชุดแทงหนอน
ชุดแทงหนอน เป็นอุปกรณ์ซ่อมแบบฉุกเฉิน ใน 1 ชุดประกอบไปด้วย แข็งแทงยาง ไหมปะยาง กาว และเหล็กร้อยไหม ซึ่งวิธีใช้ให้นำเข็มแทงยางขยายรูรั่ว จากนั้นให้นำเหล็กพร้อมร้อยไหมอุดที่รูและใช้กาวปะเอาไว้ เพื่อการอุดรอยรั่วแบบชั่วคราว หลังจากนั้นควรหาร้านปะยางเพื่อจัดการปะให้เรียบร้อย
เตาปะยาง
เตาปะยาง เป็นอุปกรณ์ซ่อมสำหรับการปะด้วยวิธีสตรีมยาง ใช้ได้ทั้งการปะยางสตรีมร้อนและสตรีมเย็น สามารถตั้งระดับความร้อนในการปะยางได้หลายระดับ และใช้ระบบลมควบคุมการอัดยาง
รถยนต์ยางรั่ว ขับต่อได้ไหม หลีกเลี่ยงได้อย่างไร
หากเกิดเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่แนะนำให้ขับรถยนต์ที่ยางรั่ว เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้ทุกเมื่อจากรถยนต์ที่สภาพไม่สมบูรณ์ สิ่งที่ควรทำเมื่อรู้ว่ายางรถยนต์รั่วก็คือตั้งสติแล้วหาที่จอดรถที่ปลอดภัย ไม่ควรจอดริมถนนที่นอกจากจะขัดขวางการจราจรแล้ว อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้ทุกเมื่ออีกด้วย หลังจากนั้นซ่อมแซมเบื้องต้นด้วยชุดปะยางฉุกเฉิน หรือเปลี่ยนยางอะไหล่สำรอง หากจำเป็นต้องขับรถไปที่ร้านทั้งที่ยังไม่ได้ซ่อมแซมควรเช็กเส้นทางไปร้านซ่อมให้ดีไม่ควรเป็นระยะไกล และขับด้วยความระมัดระวังอย่างที่สุด
สามารถป้องกันเหตุการณ์สุดวิสัยนี้ได้ด้วยการหมั่นตรวจเช็กสภาพรถสม่ำเสมอ อย่างน้อยให้ตรวจสอบความดันลมยาง ความสมบูรณ์ล้อ และตัวยางว่ามีสภาพยางที่สมบูรณ์หรือไม่ เช่น มีสิ่งของมีคมอย่างตะปู เศษแก้ว ตำที่ล้ออยู่หรือไม่ อีกทั้งขับขี่ด้วยความระมัดระวังโดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น เขตก่อสร้าง หลุมบ่อ เป็นต้น
สรุปเกี่ยวกับการปะยางรถยนต์วิธีต่าง ๆ
ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการปะยางสำหรับยางรถยนต์รั่ว สามารถเลือกใช้แต่ละวิธีให้เหมาะสมตามสถานการณ์ สุดท้ายนี้หากกำลังมองหายางใหม่ สามารถค้นหายางรถยนต์ได้ที่ NEXEN TIRE ยางรถยนต์คุณภาพเยี่ยมที่มอบประสบการณ์ความนุ่มเงียบระดับพรีเมียม พร้อมโปรโมชั่นประกันยางรถยนต์ กรณี บวม แตก เคลมฟรี 1 ปี เมื่อเปลี่ยนยางใหม่ 4 เส้นขึ้นไป รับประกันการใช้งานภายใน 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตร สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์ NEXEN TIRE หรือเฟซบุ๊ก m.me/NEXENT