รีแมพรถยนต์ คืออะไร ส่งผลเสียหรือดีมากกว่ากัน
รีแมพรถยนต์ หนึ่งในวิธีแก้ปัญหารถอืด หรืออัตราเร่งไม่ดีที่หลายคนนึกถึง แต่หลายคนอาจยังรู้สึกไม่มั่นใจกับวิธี เพราะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วการรีแมพรถคืออะไร และมีข้อดีกับข้อเสียอะไรบ้าง เดี๋ยววันนี้ เน็กเซ็น จะพาทุกคนไปเจาะลึกเรื่องการรีแมพรถยนต์ พร้อมข้อควรพิจารณาต่าง ๆ ที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำ
รีแมพรถยนต์ คืออะไร
รีแมพรถยนต์ คือ การปรับแต่งโปรแกรมควบคุมเครื่องยนต์ หรือที่เรียกว่า ECU (Engine Control Unit) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องยนต์ให้ดีขึ้นกว่าค่ามาตรฐานที่โรงงานตั้งไว้ การรีแมพจึงช่วยปลดล็อกศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในเครื่องยนต์ของรถ ทำให้รถมีกำลังเพิ่มขึ้น และตอบสนองเท้าได้ดีขึ้น
หลักการทำงานของการรีแมพรถ
- วิเคราะห์ข้อมูลเดิม : ช่างจะอ่านข้อมูลจาก ECU เดิมของรถ โดยใช้เครื่องมือพิเศษที่เชื่อมต่อกับพอร์ตของรถยนต์ โดยที่ข้อมูลชุดนี้จะแสดงให้เห็นถึงการตั้งค่าปัจจุบันของเครื่องยนต์
- ปรับแต่งโปรแกรม : ใช้ซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อปรับค่าต่าง ๆ เช่น จังหวะจ่ายน้ำมัน แรงดันเทอร์โบ อัตราส่วนอากาศต่อเชื้อเพลิง และองศาการจุดระเบิด โดยคำนึงถึงสมดุลระหว่างสมรรถนะ และความทนทานของเครื่องยนต์
- ทดสอบและปรับแต่ง : ทำการทดสอบรถบนไดนาโมมิเตอร์ หรือในสภาพการใช้งานจริง เพื่อวัดผลการเปลี่ยนแปลงและปรับแต่งค่าต่าง ๆ จนได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยอาจต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
- บันทึกโปรแกรมใหม่ : เมื่อได้การตั้งค่าที่เหมาะสมแล้ว จะทำการเขียนโปรแกรมที่ปรับแต่งลงใน ECU ของรถ ซึ่งจะแทนที่โปรแกรมเดิมที่มาจากโรงงาน
ข้อดีและข้อเสียของการรีแมพรถ
เมื่อรู้หลักการทำงาน พร้อมความหมายของการรีแมพรถคืออะไรไปแล้ว ลองมาดูข้อดีกับข้อเสียดูบ้าง
ข้อดีของการรีแมพรถยนต์
- เพิ่มแรงม้าและแรงบิด : การรีแมพสามารถเพิ่มกำลังเครื่องยนต์ได้ประมาณ 15-30% ขึ้นอยู่กับรุ่นและสภาพของรถ ทำให้รถเร่งได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงความเร็วกลาง
- ปรับปรุงการตอบสนองของคันเร่ง : ช่วยให้รถตอบสนองต่อการเหยียบคันเร่งได้ไวขึ้น ลดอาการหน่วงของเครื่องยนต์ ทำให้การขับขี่สนุกและมีชีวิตชีวามากขึ้น
- แก้ปัญหาเครื่องยนต์ : สามารถแก้ไขปัญหาบางอย่างได้ เช่น อาการเร่งไม่ขึ้น การตอบสนองที่ไม่สม่ำเสมอ หรือการกินน้ำมันที่ผิดปกติ
ข้อเสียของการรีแมพรถยนต์
- ประกันรถยนต์อาจหมดอายุ : การรีแมพอาจทำให้การรับประกันจากศูนย์รถยนต์สิ้นสุดลง เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบควบคุมเครื่องยนต์ที่ออกนอกมาตรฐานของผู้ผลิต
- เพิ่มความเครียดให้ชิ้นส่วน : การเพิ่มกำลังเครื่องยนต์อาจทำให้ชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น เกียร์ คลัตช์ หรือระบบระบายความร้อนต้องทำงานหนักขึ้น ซึ่งอาจลดอายุการใช้งานในระยะยาว
- อาจผิดกฎหมาย : การรีแมพอาจถือเป็นการดัดแปลงรถที่อาจผิดกฎหมาย โดยเฉพาะหากทำให้รถปล่อยมลพิษเกินมาตรฐานที่กำหนด
รีแมพรถยนต์ เหมาะกับรถประเภทใด
รีแมพรถยนต์ เหมาะกับรถเก่าที่มีอัตราเร่งไม่ดี เพราะเป็นการช่วยให้รถออกตัวดีขึ้น และตอบสนองการกดคันเร่งได้ดีกว่าเดิม รวมไปถึงรถเก่าที่เริ่มอืดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ควรพิจารณาถึงข้อดี และข้อเสียก่อนทำการรีแมพให้รอบคอบก่อน เพราะอาจส่งผลระยะยาวต่อการทำงานของเครื่องยนต์ได้
ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจรีแมพรถยนต์
ก่อนจะตัดสินใจรีแมพรถยนต์ ผู้ใช้รถควรพิจารณาให้รอบคอบก่อน โดยเฉพาะในเรื่องเหล่านี้
- สภาพรถ : ควรอยู่ในสภาพดี ไม่มีปัญหาเครื่องยนต์ เพราะการรีแมพอาจทำให้ปัญหาที่มีอยู่แล้วรุนแรงขึ้น
- การรับประกัน : ตรวจสอบว่าจะกระทบต่อการรับประกันหรือไม่ และพิจารณาว่าคุ้มค่ากับการเสียการรับประกันหรือไม่
- กฎหมาย : ศึกษากฎหมายด้านมลพิษหรือการดัดแปลงสภาพรถให้ดี รวมถึงข้อกำหนดด้านการตรวจสภาพรถประจำปี
- ช่างผู้เชี่ยวชาญ : เลือกช่างที่มีประสบการณ์และความน่าเชื่อถือ โดยดูจากผลงานที่ผ่านมาและความคิดเห็นของลูกค้า
รีแมพรถยนต์ ประหยัดน้ำมันขึ้นจริงไหม
คำตอบคือ “ไม่จริง” เพราะการรีแมพรถยนต์ส่วนใหญ่ มักจะเป็นการปรับจูนให้อัตราเร่งดีขึ้น กดคันเร่งแล้วรถตอบสนองได้ทันใจ จึงเป็นสาเหตุให้การสั่งจ่ายน้ำมันเพิ่มมากขึ้น และไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมันแต่อย่างใด เมื่อเทียบกับรถที่อยู่ในค่ามาตรฐานจากโรงงานผู้ผลิต
ทางเลือกอื่นในการเพิ่มประสิทธิภาพรถยนต์
นอกจากการรีแมพรถยนต์ ยังมีอีกหลายวิธีที่หลายคนอาจมองข้าม แต่สามารถแก้ปัญหารถอืดให้กลับมาวิ่งได้เต็มประสิทธิภาพได้ เช่น
- เปลี่ยนอะไหล่ตามคู่มือการใช้งาน : การเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น หัวเทียน กรองน้ำมันเครื่อง สายพาน จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสึกหรอ และประหยัดน้ำมันในระยะยาว
- เปลี่ยนของเหลวตามระยะใช้งาน : การเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ และน้ำหล่อเย็นตามกำหนด ช่วยลดแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์ ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนต่าง ๆ
- เติมลมยางให้เหมาะสม : การรักษาแรงดันลมยางให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตแนะนำ ช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างยางกับถนน ทำให้ประหยัดน้ำมัน และยืดอายุการใช้งานของยาง
- ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงคุณภาพดี : การเลือกใช้น้ำมันที่มีคุณภาพเหมาะสมกับเครื่องยนต์ จะช่วยให้การเผาไหม้มีประสิทธิภาพ ลดการสะสมของคราบตะกอน และรักษาสภาพเครื่องยนต์ให้ดีในระยะยาว
สรุปบทความ
สรุปได้ว่า การรีแมพรถยนต์ ยังคงมีความเสี่ยงที่ต้องระวัง เพราะอาจจะทำให้รถหมดประกัน และมีความเสี่ยงจากการใช้งานที่มากขึ้น การดูแลสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งาน อย่างเช่นการเปลี่ยนอะไหล่ตามอายุ จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะการเติมลมยางอย่างเหมาะสม ที่หลายคนมักมองข้าม แต่กลายเป็นสาเหตุให้รถอืดแบบไม่รู้ตัว และที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างคือการเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพดี อย่างอยางรถยนต์ NEXEN ที่มีมาตรฐานในระดับสากล และมีซีรีส์ยางหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นยางสมรรถนะสูงสไตล์สปอร์ต ยางนุ่มเงียบ หรือยางประหยัดน้ำมัน
สัมผัสความนุ่มนวลเหนือระดับไปกับเน็กเซ็น ได้ง่าย ๆ ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada
พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND