ทำสีรถ ให้สดใสเหมือนออกรถใหม่ แล้วจะเคลมประกันได้หรือไม่
สำหรับเจ้าของรถแล้วคงไม่มีใครอยากให้รถดูเก่า สีซีดจาง มีรอยขีดข่วน หรือเต็มไปด้วยคราบสกปรกอย่างแน่นอน เพราะรถยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีราคาแพง การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีเป็นสิ่งจำเป็น ช่วยยืดอายุการใช้งาน และสำหรับสีรถการดูแลปกป้องให้มีความเงางาม สีสวยเหมือนใหม่ย่อมสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี วันนี้ NEXEN TIRE จะพามาทำความรู้จักกับการทำสีรถว่าคืออะไร และมีกี่แบบ รวมทั้งถ้านำรถไปทำสียังจะสามารถเคลมประกันได้อยู่หรือไม่? ในบทความนี้กันปัจจัยที่มีส่วนทำลายสีรถมีอะไรบ้าง
การทำสีรถมีกี่แบบ
ปัจจุบันการทำสีรถมีด้วยกัน 3 ประเภท หากท่านใดยังตัดสินใจไม่ได้ว่าทำสีแบบไหนดี วันนี้ NEXEN TIRE มีข้อมูลของการทำสีให้รถยนต์ รวมทั้งจุดเด่นของแต่ละประเภทมาฝากดังต่อไปนี้
1. สีรถ 1K (1 Komponent)
เริ่มต้นกันที่สีรถประเภทแรก คือ สีรถ 1K (1 Komponent) หากต้องการนำสีชนิดนี้มาทำสีรถ ต้องนำไปผสมกับตัวทำละลายก่อน เพื่อให้สามารถพ่นสีลงบนพื้นผิวรถได้ ทั้งนี้สี 1K ก็สามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ได้แก่
- สี 1K Synthetic Enzymes คือสีน้ำมัน ซึ่งจะมีคุณสมบัติแห้งช้า เพราะมีการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ทำให้ต้องใช้เวลาแห้งตัวนานกว่าสีชนิดอื่น
- สี 1K Nitrocellulose เป็นสีแบบแห้งเร็ว โดยจะผสมเข้ากับตัวทำละลาย เมื่อพ่นลงบนพื้นผิวรถ ตัวทำละลายก็จะระเหยออกไป ทำให้สีแห้งเร็ว
- สี 1K Acrylic เป็นสีที่มีคุณสมบัติคล้ายกับสี 1K Nitrocellulose ซึ่งจะต้องนำมาผสมกับตัวทำละลายก่อน จึงจะสามารถใช้งานได้ ทำให้สีแห้งเร็วเช่นกัน
2. สีรถ 2K (2 Komponent)
สีรถ 2K (2 Komponent) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อสีแห้งช้า เป็นสีชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการทำสีรถใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติในด้านของความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศ ถึงแม้จะใช้เวลาแห้งช้า แต่มีประสิทธิภาพสูง ให้ความเงางาม เหมือนได้รถใหม่เลย
3. สีรถ OEM
ชนิดของสีประเภทสุดท้ายคือสี OEM หรือสีอบ ขั้นตอนการใช้สีประเภทนี้ในการทำสีรถจะแตกต่างจากประเภทอื่น ๆ เนื่องจากจะต้องใช้อุณหภูมิ 120 – 160 องศาในการทำ โดยสีชนิดนี้จะทำมาตั้งแต่รถอยู่ในโรงงานประกอบรถยนต์ ทำให้มีคุณสมบัติติทน สวยงามและทนทานต่อทุกสภาพอากาศ รวมทั้งสารเคมีอีกด้วย นับว่าเป็นวิธีการทำสีที่ดีที่สุดสำหรับรถเลย
ทำสีรถเฉพาะจุดหรือยกชิ้นดี?
ขับรถมาก็ต้องมีจังหวะที่รถโดนเบียดจนเป็นรอยอยู่แน่ ๆ คนรักรถเห็นรอยนิดเดียวก็ไม่ได้แล้ว ต้องรีบแก้ไขด่วน แต่ก็ไม่รู้ว่าถ้ามีรอยแค่จุดเดียว จะทำสีเฉพาะจุดนั้น หรือยกชิ้นไปเลยดี เพราะค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน วันนี้ NEXEN TIRE อธิบายว่าการทำสีรถทั้ง 2 แบบ แตกต่างกันอย่างไร ดังนี้
- ทำสีรถเฉพาะจุด หากรถของคุณเป็นรอยขีดข่วนเพียงแค่จุดเดียว หรือรอยที่ไม่ได้ลึกมาก วิธีจะเป็นการโป๊วสีลงไป ทำให้สามารถนำรถกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว แต่ในอนาคตก็อาจจะกลายเป็นจุดด่าง เนื่องจากความไม่สม่ำเสมอกันของสี จึงจำเป็นต้องให้ช่างผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทำให้
- ทำสีรถยกชิ้น ช่างผู้เชี่ยวชาญจะลอกสีเดิมของอะไหล่ชิ้นนั้นออก และผสมสีใหม่เพื่อพ่นลงไปบนพื้นผิวนั้นใหม่ โดยจะทำให้ได้ความสม่ำเสมอกันของสีรถ ไม่เพี้ยนไปเพียงแค่จุดเดียว แต่จะมีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าการทำเฉพาะจุด
ทำสีรถราคากี่บาท
ก่อนอื่นต้องบอกว่าการทำสีรถ ราคาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น การประเมินของอู่ซ่อม รอยแผลบนผิวรถว่าลึกมากเท่าใด สีที่ต้องใช้ในการซ่อม วิธีการทำสีว่าจะยกชิ้น หรืออยากจะทำเป็นเฉพาะจุด และสุดท้ายความชำนาญของช่างแต่ละท่าน
ทั้งนี้ส่วนใหญ่ราคาจะเริ่มต้นอยู่ที่ 1,500 – 5,000 บาทขึ้นไป โดยจะเป็นราคาสำหรับทำสีรถยนต์เฉพาะจุด ส่วนการทำสีรถยนต์ทั้งคัน ราคาจะอยู่ที่ 8,000 – 30,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยการพิจารณาของช่างด้วยเช่นกัน
ทําสีรถยนต์ใช้เวลากี่วัน
เนื่องจากหลาย ๆ คนอาจจะต้องใช้รถในการทำงาน หรือในการเดินทาง หากคุณทำสีรถยนต์เฉพาะจุดอาจจะใช้เวลาไม่นาน จะใช้เวลาตั้งแต่ 2 วันจนถึง 1 สัปดาห์เลยทีเดียว แต่ถ้าหากทำสีรถยนต์ทั้งคัน หรือทำยกชิ้น อาจใช้เวลานานถึงเกือบ 1 เดือนเลย
ทำสีรถเคลมประกันได้หรือเปล่า
อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้รักรถไม่อยากให้เกิด แต่พอเกิดรอยขีดข่วนขึ้นมาแล้ว ค่าใช้จ่ายที่ตามมาก็ทำเอาลมจับเลยทีเดียว รถมีประกันรถยนต์อยู่แล้ว แต่ถ้านำไปทำสีรถเองแบบนี้จะสามารถยื่นขอเคลมประกันได้หรือไม่? ไม่ต้องกังวลไปเลย เพราะคำตอบของคำถามนี้ คือ สามารถเคลมประกันได้แน่นอน! แต่ประกันแต่ละชั้นก็จะมีเงื่อนไขตามกรมธรรม์ในการเคลมที่แตกต่างกันออกไป เช่น
- ประกันชั้น 1 หากเกิดอุบัติเฉี่ยวชน หรือขับเข้าซอยแคบแล้วเกิดรอยก็สามารถเคลมได้ทันที หายกังวลไปได้เลย เพราะเคลมสีรถ ประกันชั้น 1 ทำได้แน่นอน
- ประกันชั้น 2 และ 2+ ในกรณีที่รถของคุณถือกรมธรรม์ประเภทนี้ และเกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวชน ทราบว่าคู่กรณีเป็นใครก็สามารถเคลมประกัน ซ่อมและทำสีรถได้ แต่ถ้าหากเป็นเหตุที่ไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ประกันก็จะไม่คุ้มครองในส่วนนี้
สรุป
นอกจากเรื่องสีรถที่เจ้าของต้องดูแลใส่ใจแล้ว อุปกรณ์ยานยนต์ส่วนอื่น ๆ ก็ต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะเรื่องของยางรถยนต์ ซึ่งยางรถยนต์คุณภาพได้มาตรฐานมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อความปลอดภัยในการขับขี่ ยางที่ดีช่วยเรื่องการยึดเกาะถนนที่ดีเยี่ยม หากท่านใดยังไม่รู้ว่าจะเลือกเปลี่ยนยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำยางรถยนต์ NEXEN TIRE ยางสัญชาติเกาหลีที่ได้รับรางวัลความพึงพอใจอันดับ 1 ถึง 12 ปีซ้อน จากผู้ใช้ชาวเกาหลีใต้
NEXEN TIRE มีประสบการณ์เรื่องยางมากว่า 80 ปี ผลิตยางรถยนต์คุณภาพที่ใช้กันทั่วโลกมาแล้วกว่า 500,000,000 เส้น ซึ่งยังไม่เคยมีปัญหาเรื่องของคุณภาพการผลิต มียางให้เลือกหลากหลายประเภท และหลายขนาด สามารถค้นหาร้านยางรถยนต์ใกล้ฉันผ่านทางเว็บไซต์ NEXEN TIRE มีจุดบริการครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาค นอกจากนี้ยังมีจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ NEXEN TIRE และทางเฟซบุ๊ก m.me/NEXENTH พร้อมตอบทุกข้อสงสัยของคุณ ให้คุณได้ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพที่สุด มอบความอุ่นใจทุกการขับขี่