เบาะหนังรถแท้ 6 วิธีดูแลรักษา ข้อดีข้อเสียมีอะไรบ้าง
เบาะหนังแท้ อุปกรณ์แต่งรถเพิ่มความสวยงาม
เบาะรถยนต์หนังแท้ได้รับความนิยมมานาน มีความหรูหราและมีสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง นอกจากนี้เบาะหนังยังเป็นวัสดุที่แข็งแรง ซึ่งสามารถทนต่อการสึกหรอได้ดีกว่าวัสดุอื่น ๆ หากได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม เบาะหนังรถยนต์จะมีอายุการใช้งานได้หลายปี ในส่วนของผิวสัมผัสเบาะหนังให้ความรู้สึกสบาย เพราะเข้ากับรูปร่างและให้การรองรับที่ดีกว่า จึงไม่น่าแปลกใจว่าเบาะหนังถือเป็นตัวเลือกที่เจ้าของรถนิยมนำมาตกแต่งภายใน อย่างไรก็ตามเบาะหนังแท้จำเป็นต้องดูแลรักษาอย่างเหมาะสมเพื่ออายุการใช้งานที่ยาวนาน
เบาะหนังรถยนต์มีข้อดีอย่างไร
- การรักษาความสะอาดที่ง่าย
เบาะหนังรถยนต์มีผิวที่เรียบและไม่มีรอยต่อเหมือนเบาะผ้า ทำให้การทำความสะอาดเป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น แค่ใช้น้ำยาทำความสะอาดหรือผ้าชุบน้ำผสมสบู่ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่าย
- ความนุ่มสบาย
เบาะหนังมีความนุ่มและยืดหยุ่น เมื่อนั่งจะรู้สึกสบายและไม่เจ็บหลัง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานระยะยาว
- มีความทนทาน
เบาะหนังรถยนต์มีความทนทานเมื่อดูแลรักษาอย่างถูกต้อง เบาะหนังสามารถใช้งานได้นานนับ 10 ปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนเบาะบ่อย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานรถยนต์เป็นเวลานาน
- มีความสวยงาม
เบาะหนังรถยนต์มีความสวยงามและคลาสสิค ทำให้รถยนต์มีความหรูหราและดูดีมากขึ้น ถือเป็นอุปกรณ์แต่งรถประเภทหนึ่งก็ว่าได้
เบาะหนังรถยนต์มีข้อควรระวังอย่างไร
ร้อน
เบาะหนังมักเก็บความร้อนเมื่อโดนแสงแดด โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน อาจทำให้ผู้โดยสารรู้สึกร้อนเวลานั่งสัมผัสเบาะหนัง
ความเสียหายจากแสงแดดและสารเคมี
เบาะหนังรถยนต์อาจเสียหายได้ง่ายหากถูกแดดจัดหรือโดนสารเคมี เช่น สารทำความสะอาดรถยนต์ ซึ่งอาจทำให้หนังแห้งแตกหรือเสียหายอย่างรวดเร็ว
การสั่นสะเทือน
เบาะหนังรถยนต์มีโอกาสได้รับแรงสั่นสะเทือนจากการขับรถหรือการเคลื่อนที่ ซึ่งอาจทำให้เบาะหนังแตกหรือเสียหายได้
มีมูลค่าสูง
เบาะหนังรถยนต์มีมูลค่าสูงกว่าเบาะที่ผลิตจากวัสดุอื่น เนื่องจากความทนทานและความสวยงาม
เคล็ดลับดูแลเบาะรถยนต์หนังแท้
1. ทำความสะอาดเบาะเป็นประจำ
การทำความสะอาดเบาะหนังเป็นประจำเป็นเรื่องสำคัญ คุณสามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดเครื่องหนังหรือน้ำสบู่อ่อน ๆ และผ้านุ่ม ๆ เช็ดอย่างเบามือเพื่อขจัดคราบสกปรกต่าง ๆ ไม่ให้เกิดการสะสมจนยากที่จะทำความสะอาดได้หมด สามารถใช้วิธีนี้กับเบาะหนังเทียมได้ด้วยเช่นกัน
2. ปกป้องเบาะจากแสงแดด
แสงแดดมีส่วนทำให้เบาะหนังซีดจางและแตกเมื่อเวลาผ่านไป เพื่อเป็นการป้องกันเบาะหนังไม่ให้เสียง่ายและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ควรใช้ม่านบังแดดหรือจอดรถในที่ร่มทุกครั้งที่ทำได้
3. ใช้ครีมบำรุงเบาะหนัง
เบาะหนังอาจแห้งและเปราะเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดรอยแตกเล็ก ๆ และฉีกขาดได้ วิธีป้องกันคือใช้ครีมบำรุงเบาะหนังเพื่อให้หนังอ่อนนุ่มอยู่เสมอ
4. หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง
สารเคมีรุนแรงสามารถทำลายเบาะหนังได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของสารฟอกขาว แอมโมเนีย หรือสารเคมีรุนแรงอื่น ๆ
5. ขจัดคราบทันที
หากคุณทำสิ่งของหกเลอะเบาะหนัง ให้รีบทำความสะอาดโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบฝังแน่น ซึ่งอาจส่งผลให้เช็ดออกได้ยาก หรือทำให้สีของเบาะหนังผิดเพี้ยน
6. หลีกเลี่ยงความชื้น
การทำความสะอาดเบาะหนังอาจสร้างความเสียหายได้หากปล่อยให้เบาะเปียกน้ำนานเกินไป ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำในปริมาณที่มากและรีบเช็คให้แห้งโดยเร็ว
โดยรวมแล้วความนิยมของเบาะหนังรถยนต์นั้นมาจากความสวยงาม ความทนทาน ความสะดวกสบาย และการบำรุงรักษาที่ง่าย ผู้ซื้อรถยนต์จำนวนมากยินดีจ่าย เพื่อประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น และไม่ใช่แค่เบาะรถยนต์เท่านั้นที่ควรหมั่นดูแลรักษา การตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางให้พร้อมใช้งานเป็นประจำ ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และอุปกรณ์รถยนต์ที่ต้องใส่ใจนี้ยังหมายรวมถึงยางรถยนต์ด้วย
สำหรับท่านใดที่คิดจะเปลี่ยนยางรถยนต์แต่ไม่รู้จะเลือกซื้อยางรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ขอแนะนำ NEXEN TIRE ยางรถยนต์มาตรฐานโลกจากประเทศเกาหลีใต้ มีประสบการณ์เรื่องยางมายาวนานกว่า 80 ปี ได้รับความไว้ใจจากยี่ห้อรถยนต์ชั้นนำมากมายให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน (OE) ทั้งยังได้รับรางวัลความพึงพอใจอันดับ 1 จากผู้ใช้ชาวเกาหลีใต้ 12 ปีซ้อน
NEXEN TIRE เป็นหนึ่งในยางที่ร้านยางใกล้ฉันทั่วประเทศไว้ใจเลือกใช้บริการลูกค้า มียางรถยนต์ให้เลือกหลายประเภท หลายขนาด ทั้งรถยนต์นั่งขนาดเล็ก ขนาดกลาง รถกระบะ รถ SUV มาพร้อมโปรโมชันประกันยางรถยนต์ฟรี 1 ปี หรือระยะทาง 25,000 กิโลเมตร ในกรณียางบาด ยางบวม ยางแตก เปลี่ยนยางใหม่ได้อย่างสบายใจ มีตัวแทนจำหน่ายขนาดใหญ่ทั่วประเทศ หรือติดต่อ NEXEN TIRE ได้ทางเว็บไซต์ และเฟซบุ๊ก m.me/NEXENTH