รถยางแตกระหว่างเดินทาง รับมือได้ด้วย 4 เทคนิคนี้!
หนึ่งในปัญหาที่ผู้ขับขี่ไม่อยากให้เกิดขึ้นระหว่างการเดินทางก็คือปัญหารถยางแตกหรือระเบิด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ หากผู้ขับขี่ไม่ทราบว่าควรจะต้องรับมือกับปัญหาเหล่านี้อย่างไร Nexen Thailand มีวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นมาฝาก เพราะถ้าหากเกิดยางแตกขึ้นมาจริง ๆ ผู้ขับขี่จะได้นำไปปรับใช้กันอย่างมีสติ นอกจากนี้เรายังได้รวบรวมเบอร์โทรฉุกเฉินและอุปกรณ์จำเป็นที่ควรมีติดรถยนต์เอาไว้ แต่จะมีอะไรบ้างนั้น ต้องไปติดตามกันในบทความนี้เลย
สังเกตอาการอย่างไรว่ารถยางแตก
สำหรับผู้ขับขี่ที่ไม่เคยเจอสถานการณ์รถยางแตกอาจมองภาพไม่ออกว่า อาการแบบไหนคือสัญญาณเตือนว่าล้อรถของเรากำลังมีปัญหา โดยลักษณะของอาการที่สังเกตได้มีดังนี้
- เสียงผิดปกติจากล้อ เช่น เสียงดังแกร๊ก ๆ เสียงดังครืด ๆ หรือเสียงดังปังคล้ายระเบิด
- รถมีอาการสั่นมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในจังหวะที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง
- รถเสียการทรงตัว บังคับทิศทางยากหรือพวงมาลัยดึงไปข้างใดข้างหนึ่ง
- แรงดันลมยางลดลงอย่างรวดเร็ว หากรถที่มีระบบ TPMS จะมีการแจ้งเตือนความผิดปกติดังกล่าวทันที
รถยางแตกเกิดจากอะไรใดบ้าง
สาเหตุที่ทำให้รถยางแตกนั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งจากการใช้งานโดยตรง และปัจจัยจากภายนอก ซึ่งมีสาเหตุที่ควรรู้ไว้ดังนี้
- ใช้ยางไม่เหมาะกับประเภทของรถยนต์ เช่น ยางที่ตรงกับขนาดล้อ หรือนำยางรถเก๋งไปใช้กับรถกระบะ ซึ่งจะทำให้ยางทำงานหนักจนเกิดความร้อนสะสม
- ใช้ยางหมดอายุ แน่นอนว่ายางที่มีอายุเกิน 5 ปีย่อมเสื่อมสภาพมากกว่าปกติ แม้ว่าดอกยางยังไม่สึกมากแต่เนื้อยางสูญเสียความยืดหยุ่นไปแล้ว จึงไม่เหมาะนำมาใช้งานต่อ
- แก้มยางได้รับแรงกระแทก จากการตกหลุมอย่างรุนแรง การเบียดขอบถนน หรือชนกับสิ่งกีดขวางต่าง ๆ บนถนน จนทำให้แก้มยางปริหรือแตกได้
- ลมยางอ่อนหรือเกิดการรั่ว เมื่อแรงดันลมยางต่ำกว่ามาตรฐาน จะทำให้โครงสร้างของยางเสียสมดุล ส่งผลให้เกิดความร้อนสะสมภายในยาง
- อุณหภูมิภายนอกสูง จากการขับขี่ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือจอดตากแดดเป็นประจำ อาจทำให้เนื้อยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
รับมืออย่างไรเมื่อรถยางแตกระหว่างทาง
คนส่วนใหญ่เมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์รถยางแตกด้วยตัวเอง ส่วนใหญ่จะไม่รู้ว่าควรรับมืออย่างไรบ้าง เพื่อให้ผู้ใช้รถทุกคนตระหนักถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ NEXEN จึงได้สรุปทั้งหมด 4 วิธีรับมือกับเหตุการณ์รถยางแตก โดยทั้งหมดมีรายละเอียดดังนี้
ตั้งสติและค่อย ๆ หยุดรถ
เมื่ออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการตั้งสติเพื่อควบคุมสถานการณ์และยานพาหนะให้ดีที่สุด โดยจะต้องนำรถยนต์เข้าจอดในบริเวณที่ปลอดภัยต่อทั้งผู้ขับขี่และผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่น ๆ ดังนั้นสิ่งที่คุณสามารถทำได้เมื่อรู้ว่ายางรถยนต์แตกก็คือ การตั้งสติ ค่อย ๆ หยุดรถ อย่าเหยียบเบรกกะทันหัน และค่อย ๆ นำรถเข้าข้างทางอย่างปลอดภัย
ควบคุมพวงมาลัยให้นิ่งที่สุด
หากเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับล้อรถยนต์ อาจทำให้การควบคุมยานพาหนะเป็นไปได้ยากมากยิ่งขึ้น รถยนต์ที่คุณขับอาจส่ายไปมา ดังนั้นผู้ขับขี่ควรพยายามควบคุมพวงมาลัยให้นิ่งที่สุด โดยการจับพวงมาลัยให้แน่น และพยายามไม่เลี้ยวรถยนต์ หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน ให้ค่อย ๆ บังคับรถเข้าบริเวณข้างทางอย่างปลอดภัย และเมื่อรถยนต์จอดสนิทแล้ว อย่าลืมที่จะเปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเพื่อเป็นสัญญาณบอกกับผู้ขับขี่คนอื่น ๆ ให้ขับขี่อย่างระมัดระวังด้วย
ขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่คุณไม่สามารถเปลี่ยนยางรถยนต์ด้วยตัวเองได้ แนะนำว่าให้ติดต่อกับประกันโดยตรง อย่างน้อยก็เพื่อขอความช่วยเหลือเกี่ยวกับการนำรถยนต์เข้าอู่นั่นเอง โดยคุณสามารถขอความช่วยเหลือจากเบอร์โทรฉุกเฉินต่อไปนี้
- ตำรวจทางหลวง หรืออุบัติเหตุบนทางหลวง โทร. 1193
- สายด่วนมอเตอร์เวย์ โทร. 1586
- การทางพิเศษแห่งประเทศไทย โทร. 1543
- ศูนย์ความปลอดภัยกรมทางหลวงชนบท โทร. 1146
- แจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย โทร. 191 หรือ 1190
- สถานีวิทยุ จส. 100 โทร. 1137
- สถานีวิทยุ สวพ. 91 โทร. 1644
- สายด่วนร่วมด้วยช่วยกัน โทร. 1677
- สายด่วนอุบัติเหตุ โทร. 02-711-9161 หรือ 02-711-9162
เปลี่ยนยางเองได้หากมีประสบการณ์
หากคุณมียางรถยนต์สำรองอยู่ในรถยนต์พร้อมเครื่องมือ คุณสามารถลงมือเปลี่ยนยางรถยนต์ได้ด้วยตัวเองทันที เพื่อให้สามารถขับรถยนต์ไปยังจุดหมายปลายทางหรือเพื่อขับไปยังอู่ซ่อมรถยนต์ที่ใกล้ที่สุดได้ สำหรับเครื่องมือที่คุณควรมีติดรถยนต์เอาไว้มีดังต่อไปนี้
- ล้อ และยางอะไหล่ และต้องตรวจเช็กสภาพล้อและยางอะไหล่เสมอเช่นกัน
- แม่แรง เพื่อใช้ในการเปลี่ยนยางรถยนต์เบื้องต้น
- สายพ่วงแบตเตอรี่ ในกรณีที่เกิดปัญหาแบตเตอรี่รถยนต์หมดขณะขับขี่
- กล่องเครื่องมือสำหรับรถยนต์เบื้องต้น ซึ่งมีจำหน่ายทั่วไปตามร้านรถยนต์ต่าง ๆ
- ป้ายฉุกเฉิน เพื่อช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยเมื่อคุณต้องจอดรถข้างทาง
- สายลากรถ อุปกรณ์สำคัญเมื่อรถยนต์ตกหลุมหรือไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เอง
ป้องกันอย่างไรไม่ให้รถยางแตกระหว่างเดินทาง
แม้ว่ารถยางแตกจะเป็นเหตุการณ์ที่คาดเดาได้ยาก แต่ผู้ใช้รถยนต์ทุกคนสามารถป้องกันไม่ให้เกิดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ได้ดังนี้
- เช็กสภาพยางรถยนต์เป็นประจำ อย่างน้อยเดือนละครั้ง ดูว่าดอกยางสึกหรอมากน้อยขนาดไหน มีรอยแตก รอยปริตรงไหน หรือรอยบวมหรือไม่ หากพบความผิดปกติดังกล่าวควรเปลี่ยนยางใหม่ทันที
- เติมลมยางให้ได้ตามมาตรฐาน ตามที่คู่มือของรถยนต์แต่ละรุ่น ควรเช็กแรงดันลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง และควรเติมลมยางเพิ่มให้ได้ปริมาณที่เหมาะสมอยู่เสมอ
- พยายามไม่บรรทุกหนักเกิดพิกัด เพราะน้ำหนักที่มากจะเพิ่มแรงกดทับให้กับยางรถยนต์ ทำให้ยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ทางที่ดีควรบรรทุกของเท่าที่จำเป็นเพื่อลดภาระให้กับยาง
- ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ลดการใช้ความเร็วที่มากเกินไป หลีกเลี่ยงการขับขี่บนถนนขรุขระ หรือมีสิ่งกีดขวาง เพราะอาจทำให้ยางรถยนต์เสียหายได้
สรุปเกี่ยวกับการรับมือเมื่อรถยางแตกระหว่างทาง
นอกจากวิธีต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว ทั้งเรื่องของการขับขี่ การหยุดรถอย่างปลอดภัยและการตรวจเช็กอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญอย่าลืมเลือกใช้ยางรถยนต์ให้ถูกต้องและเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ให้มากยิ่งขึ้นในทุก ๆ เส้นทาง และถ้าหากคุณกำลังมองหายางเส้นใหม่อยู่ล่ะก็ อย่าลืมเลือกซื้อยางรถยนต์คุณภาพคับเส้นจาก Nexen Thailand ติดต่อเราได้ที่ โทร. 02-930-4115-8 หรือสั่งซื้อยางรถยนต์ออนไลน์ได้ที่นี่Lazada และ Shopee