ขับรถกลับบ้านปีใหม่อย่างปลอดภัย เช็กสภาพที่ ตรอ. ก่อนเดินทางไกล
เตรียมความพร้อมขับรถเดินทางไกล เช็กสภาพรถให้มั่นใจก่อนขับขี่
ความปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนต่างต้องคำนึงถึงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความปลอดภัยต่อรถยนต์ ทรัพย์สิน ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ร่วมทางบนท้องถนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงใกล้เทศกาลสำคัญหรือวันหยุดยาว ส่งผลให้การจราจรคับคั่งและการจราจรจะยิ่งติดขัดมากขึ้นไปอีก หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน รถเสีย แบตเตอรี่หมด น้ำมันหมดกลางทาง ยางแตก ยางเสื่อมสภาพทำให้ระบบเบรกทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งโดยมากแล้วปัญหาเหล่านี้มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เมื่อผู้ใช้รถต่างละเลยการตรวจเช็กสภาพรถให้ถี่ถ้วนก่อนออกเดินทาง
ดังนั้นช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 ที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ ใครที่กำลังมีแพลนขับรถเที่ยวปีใหม่ในไทย ต้องเช็กสภาพรถคู่ใจก่อนออกเดินทาง ไม่ว่าการเดินทางนั้นจะใกล้หรือไกลก็ตาม อีกนัยหนึ่งคือเมื่อรถของคุณมีอายุการใช้งานตามที่กรมขนส่งทางบกกำหนด และต้องต่อภาษีให้ถูกต้องตามกฎหมาย จำเป็นต้องนำรถไปตรวจที่ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ว่าทริปขับรถเที่ยวปีใหม่ของคุณจะราบลื่นอย่างปลอดภัยแน่นอน
ตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) สำคัญอย่างไร จำเป็นหรือไม่ ?
การตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. คือ การนำรถยนต์ไปตรวจสภาพที่สถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) โดยเป็นสถานที่ตรวจสภาพรถ ที่ได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของรถก่อนจะต่อทะเบียนภาษี ตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 รถจะต้องมีสภาพมั่นคง แข็งแรง มีลักษณะ ขนาด และเครื่องอุปกรณ์ส่วนควบของรถ ถูกต้องตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง และประชาชนทั่วไปสามารถนำรถไปตรวจเช็กได้ที่ตรอ. โดยไม่ต้องไปตรวจสภาพที่กรมการขนส่งโดยตรง
ทั้งนี้การตรวจสภาพรถ ตรอ. ไม่ได้กำหนดเฉพาะรถยนต์เท่านั้น แต่สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ก็สามารถนำไปตรวจที่ตรอ. ได้เช่นกัน แล้วต้องตรวจสภาพรถ กี่ปี? สำหรับรถที่อยู่ในข่ายต้องตรวจสภาพรถก่อนเสียภาษีประจำปี ต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
1. รถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกทุกประเภท โดยไม่จำกัดอายุการใช้งาน
2. รถตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ประเภทรถ ดังนี้
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ที่มีอายุใช้งานครบ 7 ปี ขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ ที่มีอายุใช้งานครบ 5 ปี ขึ้นไป
ตรอ. ตรวจสภาพรถยนต์ ตรวจอะไรบ้าง ? มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
เตรียมวันว่างให้พร้อมก่อนออกเดินทางเที่ยวปีใหม่ หรือเตรียมตัวไปตรวจรถเพื่อต่อภาษีประจำปีล่วงหน้า ซึ่งต้องนำรถไปตรวจสภาพล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน ก่อนถึงวันสิ้นอายุภาษีประจำปี และอาจใช้เวลานานสักนิดในการตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. เนื่องด้วยมีรายการตรวจหลัก ๆ ถึง 6 รายการ ที่จำเป็นต้องตรวจอย่างละเอียด ดังนี้
1. ตรวจสอบความถูกต้องตามเอกสารรถยนต์
วันตรวจสภาพรถเจ้าของรถจำเป็นต้องเตรียมเอกสารเล่มรถยนต์ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้ในการตรวจเช็กความถูกต้อง ได้แก่ ประเภทรถ ยี่ห้อรถ ลักษณะ เลขทะเบียน หมายเลขตัวถัง หมายเลขเครื่องยนต์ เชื้อเพลิง และสีของตัวรถ ต้องถูกต้องและตรงตามที่ระบุในเล่มเอกสารประจำรถ
2. ตรวจสอบสภาพภายนอกและส่วนควบต่าง ๆ
เมื่อขั้นตอนตรวจเช็กความถูกต้องจากเอกสารผ่านเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อมาคือการตรวจสภาพภายนอกและภายในรถอย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการ ได้แก่ พวงมาลัย มาตรวัด ไฟสัญญาณ แตร สวิตช์ควบคุม อุปกรณ์ปัดน้ำฝน กระจกมองข้าง กระจกมองหลัง เข็มขัดนิรภัย ที่นั่งคนขับ ที่นั่งผู้โดยสาร พนักพิงศีรษะ ระบบไฟส่องสว่างทั้งด้านหน้าและด้านหลัง กันชน ยางรถยนต์ บังโคลน ตัวถัง ประตู และกันชนรถ
3. ตรวจสภาพความสมบูรณ์ของใต้ท้องรถ
เป็นการตรวจดูสภาพการเสื่อมโทรมของใต้ท้องรถ หรือรอยขีดข่วนต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดการรั่วไหลของเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ได้ นอกจากนั้นยังมีการตรวจสอบระบบบังคับเลี้ยว ระบบเครื่องยนต์ โช้กอัพ ระบบรองรับน้ำหนัก และระบบไอเสีย วัดค่าการปล่อยก๊าซมลพิษต่าง ๆ ในอากาศ
4. ตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้งานเบรก
สิ่งสำคัญที่สุดต่อการตรวจสภาพรถนั่นคือ การตรวจสอบประสิทธิภาพของเบรก เนื่องด้วยการเบรกมีปัญหาหรือชำรุดอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อผู้ใช้รถใช้ถนนและผู้ร่วมทางได้ โดยจะทำการทดสอบประสิทธิภาพบนลูกกลิ้งและวัดค่าประสิทธิภาพของล้อทั้ง 4 ล้อ
5. ตรวจสอบการทำงานของโคมไฟหน้ารถ
โคมไฟหน้ารถหรือไฟหน้า เป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะผู้ที่ใช้รถใช้ถนนยามค่ำคืน จึงควรต้องตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนออกเดินทาง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของตรอ. จะมีการตรวจวัดค่าความเบี่ยงเบนของแสงและความเข้มส่องสว่างอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
6. ตรวจสภาพระดับเสียงของท่อไอเสีย
เสียงของท่อไอเสียอาจส่งผลกระทบต่อประสาทหูได้เมื่อมีระดับความดังเกินกำหนด การตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. จึงจำเป็นต้องมีการตรวจระดับเสียงของรถด้วย โดยค่าระดับเสียงของท่อไอเสีย ต้องมีระดับความดังสูงสุดไม่เกิน 100 เดซิเบล เอ จึงจะผ่านมาตรฐานตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด
และสำหรับอัตราค่าบริการตรวจสภาพรถยนต์ที่ตรอ. มีกำหนด 3 ราคา ได้แก่
- รถจักรยานยนต์ คันละ 60 บาท
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าไม่เกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 200 บาท
- รถยนต์ที่มีน้ำหนักรถเปล่าเกิน 2,000 กิโลกรัม คันละ 300 บาท
วิธีการค้นหาสถานตรวจสภาพรถ ตรอ ใกล้ฉัน
อยากรู้ว่ามีสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ที่ไหนอยู่ใกล้บ้านคุณ สามารถค้นหาใน Google ได้ง่าย ๆ เริ่มต้นจากการเปิดระบบ GPS บนสมาร์ทโฟนของคุณ และเลือกใช้คีย์เวิร์ดคำค้นหาว่า “ตรวจสภาพรถยนต์ ตรอ. ใกล้ฉัน” หรือ “ตรวจสภาพ ตรอ. ใกล้ฉัน” จากนั้นระบบจะประมวลผลและขึ้นแนะนำสถานตรวจสภาพรถ (ตรอ.) ใกล้คุณทันที โดยวิธีการเลือกนั้นจะต้องเลือกจุดที่มีตราสัญลักษณ์ตรอ. ชัดเจน
ทริค 6 ไม่! ช่วยให้ขับรถเดินทางไกลช่วงปีใหม่ปลอดภัยขึ้น
- ไม่ละเลยการตรวจเช็กสภาพรถก่อนออกเดินทาง
- ไม่ลืมเติมน้ำมัน น้ำมันต้องเต็มถังตลอดเวลาพร้อมรับทุกสถานการณ์โดยเฉพาะรถติด
- ไม่มึนเมาและไม่ดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับขี่รถ
- ไม่หลับใน หากง่วงให้จอดพักรถที่จุดพักรถหรือปั๊มน้ำมันที่มีคนพลุกพล่าน
- ไม่ละสายตาจากถนน ควรมองทางอยู่เสมอ ไม่ควรเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถ
- ไม่ขับรถเร็วเกินกำหนดจนเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้ร่วมใช้ถนนคนอื่น
ขับขี่ปลอดภัยเสมอเมื่อรถมีสภาพความพร้อม จึงไม่ควรละเลยและมองข้ามการตรวจเช็กสภาพรถให้ดี และหากแพลนเที่ยวปีใหม่ 2566 ของคุณ มีแพลนจะไปเที่ยวปีใหม่ใกล้กรุงเทพ ในจังหวัดท่องเที่ยวยอดนิยม หรือเที่ยวปีใหม่ภาคเหนือ ขับรถขึ้นเขาลงดอยอย่างปลอดภัยพร้อมกับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน อย่าลืมตรวจเช็คสภาพรถ ซึ่งสามารถเช็คสภาพรถฟรีได้แล้ววันนี้ ณ ศูนย์บริการทั่วประเทศกว่า 2,000 แห่ง ที่มีป้ายประชาสัมพันธ์ ตลอดเดือนธันวาคม 2565 อีกทั้งต้องหมั่นเช็กประสิทธิภาพยางให้ชัวร์ก่อนเริ่มทริปเที่ยว หากยางเริ่มแสดงสัญญาณเตือนว่าใกล้เสื่อมสภาพ ให้รีบเปลี่ยนอย่าฝืนใช้แม้จะเดินทางใกล้ ๆ ก็ตาม สามารถค้นหายางรถยนต์คุณภาพสูงได้ที่ Nexen Thailand พร้อมปรึกษาและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ผ่านทาง Nexen Tire Thailand Facebook Inbox : m.me/NEXENTH