fbpx

ระบบ Push Start มีหลักการทำงานอย่างไร

ระบบ Push Start ได้เปลี่ยนวิธีการสตาร์ทรถยนต์ไปอย่างสิ้นเชิง ปุ่มสตาร์ทรถที่ดูเรียบง่ายนี้ได้แทนที่การบิดกุญแจแบบดั้งเดิม ทำให้การเริ่มต้นการเดินทางเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัส แต่ระบบ Push Start นี้ทำงานอย่างไร และทำไมผู้ใช้รถจึงควรทำความเข้าใจกับมัน เดี๋ยว เน็กเซ็น จะไขข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับปุ่มพุชสตาร์ทที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อนให้เอง

ระบบ Push Start คืออะไร

ระบบ Push Start เป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถสตาร์ทรถได้โดยไม่ต้องใช้กุญแจแบบดั้งเดิม เพียงแค่กดปุ่มสตาร์ทรถที่ติดตั้งอยู่บนแผงหน้าปัด ระบบจะทำงานร่วมกับ Smart Key ซึ่งเป็นกุญแจอัจฉริยะที่สื่อสารกับตัวรถผ่านสัญญาณวิทยุความถี่ต่ำ ทำให้การสตาร์ทรถเป็นเรื่องง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น

ปุ่ม Push Start กดแบบไหนถูกต้อง

การใช้งานปุ่ม Push Start อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด โดยทั่วไป การสตาร์ทรถด้วยปุ่มพุชสตาร์ทมีขั้นตอน ดังนี้

  1. เหยียบเบรกให้สุด
  2. กดปุ่ม Push Start ค้างไว้ 2 – 3 วินาที
  3. ปล่อยปุ่มเมื่อเครื่องยนต์ติด

นอกจากนี้ การกดปุ่มสตาร์ทรถแต่ละครั้งยังมีความต่างในการทำงานอีกด้วย เช่น

  • กด 1 ครั้ง : เปิดระบบไฟฟ้าบางส่วน เช่น วิทยุ
  • กด 2 ครั้ง : เปิดระบบไฟฟ้าทั้งหมด
  • กด 3 ครั้ง (พร้อมเหยียบเบรก) : สตาร์ทเครื่องยนต์

ระบบ Push Start มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

ระบบ Push Start มีข้อดี-ข้อเสียอะไรบ้าง

ระบบ Push Start มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้ใช้รถควรพิจารณา การทำความเข้าใจกับคุณสมบัติเหล่านี้จะช่วยให้คุณใช้งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น

ข้อดีของระบบ Push Start

  • สะดวกสบาย : ไม่ต้องหยิบกุญแจออกมาบิด เพียงแค่กดปุ่มพุชสตาร์ทก็สตาร์ทรถได้ทันที
  • ปลอดภัย : มีระบบ Immobilizer ป้องกันการโจรกรรม ทำให้ยากต่อการขโมยรถ
  • ทันสมัย : ให้ความรู้สึกไฮเทคและล้ำสมัย เพิ่มมูลค่าให้กับรถยนต์
  • ใช้งานง่าย : ไม่ต้องกังวลเรื่องกุญแจติดล็อก หรือลืมถอดกุญแจ

 

ข้อเสียของระบบ Push Start

  • ค่าใช้จ่ายสูง : หากปุ่ม Push Start เสีย การซ่อมหรือเปลี่ยนอาจมีค่าใช้จ่ายสูง
  • พึ่งพาแบตเตอรี่ : ทั้ง Smart Key และระบบในรถต้องอาศัยแบตเตอรี่ หากหมดอาจทำให้ใช้งานไม่ได้
  • ความซับซ้อน : ระบบที่ซับซ้อนขึ้นอาจทำให้เกิดปัญหาได้ง่ายกว่าระบบกุญแจแบบดั้งเดิม
  • ความเสี่ยงจากการกดผิด : อาจเกิดอันตรายหากเผลอกดปุ่มขณะขับรถ

เผลอกดปุ่ม Push Start ขณะขับ จะเป็นไรไหม

หากเผลอกดปุ่ม Push Start เพียงเสี้ยววินาทีขณะขับรถ จะไม่เกิดอะไรขึ้น เนื่องจากผู้ผลิตได้ออกแบบระบบความปลอดภัยไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากกดปุ่มพุชสตาร์ทค้างไว้ 2 – 3 วินาที เครื่องยนต์จะดับทันที ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้ เพราะระบบพวงมาลัยเพาเวอร์ และเบรกจะหยุดทำงาน ทำให้ควบคุมรถได้ยากขึ้น

หากเกิดเหตุการณ์นี้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. เปลี่ยนเกียร์เป็นเกียร์ว่าง (N)
  2. เหยียบเบรกให้แน่น
  3. กดปุ่ม Push Start อีกครั้งเพื่อสตาร์ทรถใหม่

ระบบ Push Start กับกุญแจ ต่างกันอย่างไร

ระบบ Push Start กับกุญแจ ต่างกันอย่างไร

ระบบ Push Start และกุญแจแบบดั้งเดิมมีความแตกต่างกัน ดังนี้ 

  • วิธีการสตาร์ท : ระบบ Push Start ใช้การกดปุ่ม ในขณะที่กุญแจแบบเดิมต้องเสียบและบิด
  • การสื่อสาร : ระบบ Push Start ใช้ Smart Key ที่สื่อสารผ่านคลื่นวิทยุ ส่วนกุญแจแบบเดิมใช้การเชื่อมต่อทางกล
  • ฟีเจอร์เพิ่มเติม : ระบบ Push Start มักมาพร้อมกับการล็อก และปลดล็อกประตูอัตโนมัติ
  • ความปลอดภัย : ระบบ Push Start มีระบบป้องกันการโจรกรรมที่ซับซ้อนกว่า

ปุ่ม Push Start เสีย ซ่อมแพงหรือเปล่า

เมื่อปุ่ม Push Start เสีย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมอาจสูงกว่าการซ่อมระบบกุญแจแบบเดิม เนื่องจากเป็นระบบที่ซับซ้อนกว่า ซึ่งหากมีการเปลี่ยนยกชุด จะมีราคาเริ่มต้นที่ 2,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับรุ่นของรถ  

 

แบตกุญแจรถหมดกดปุ่มสตาร์ทรถไม่ได้ ต้องทำอย่างไร

หากแบตเตอรี่ของ Smart Key หมด และไม่สามารถกดปุ่มสตาร์ทรถได้ ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. นำ Smart Key มาแตะที่ปุ่ม Push Start โดยตรง (บางรุ่นอาจมีจุดเฉพาะสำหรับแตะ Smart Key)
  2. กดปุ่มพุชสตาร์ทพร้อมเหยียบเบรก

หลังจากนั้น ควรรีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ Smart Key โดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันปัญหาในการใช้งานครั้งต่อไป

สรุปบทความ

ระบบ Push Start เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้รถยนต์ เพียงทำความเข้าใจถึงการใช้งานเบื้องต้น และเปลี่ยนแบตเตอรี่เมื่อสังเกตได้ว่าสัญญาณอ่อน การใช้งานระบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลแต่อย่างใด เช่นเดียวกับการเปลี่ยนยางรถยนต์ตามอายุการใช้งาน อย่างการเลือกยางประหยัดน้ำมัน หรือยางนุ่มเงียบจาก NEXEN ที่ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่า และประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมในการขับขี่ จึงตอบโจทย์ผู้ใช้รถที่อยากประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี 

สัมผัสความนุ่มนวลเหนือระดับไปกับเน็กเซ็น ได้ง่าย ๆ ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada

พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND