รวม 6 จุดพักรถมอเตอร์เวย์ขาออก-ขาเข้ากรุงเทพฯ

สำหรับคนที่ต้องเดินทางไกล จุดพักรถมอเตอร์เวย์ถือเป็นสถานที่สำคัญที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ได้พักผ่อน และเติมพลังระหว่างทาง ซึ่งมีหลายจุดที่น่าสนใจทั้งขาออกและขาเข้ากรุงเทพฯ วันนี้ เน็กเซ็น จะพาคนใช้รถไปรู้จักแต่ละแห่งให้เอง

ทำไมต้องมีจุดพักรถมอเตอร์เวย์ขาออก-ขาเข้า

จุดพักรถมอเตอร์เวย์เป็นสถานที่สำคัญสำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องเดินทางไกล โดยมักจะตั้งอยู่ทุก 50-100 กิโลเมตร เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้พักผ่อน ช่วยลดความเหนื่อยล้าและป้องกันอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

6 จุดพักรถมอเตอร์เวย์ขาออก-ขาเข้ากรุงเทพฯ

สำหรับคนที่กำลังมองหาจุดพักรถใกล้ฉัน เรามีพิกัดจุดพักรถมอเตอร์เวย์ทั้งขาออก และขาเข้ากรุงเทพฯ ที่พร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งร้านอาหาร ห้องน้ำ และร้านสะดวกซื้อ มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้าง

1. จุดพักรถมอเตอร์เวย์ Porto Chino พระราม 2

จุดพักรถใกล้ฉันสำหรับคนเดินทางไปภาคใต้ในรูปแบบ Community Mall เปิด 24 ชั่วโมง มีร้านอาหาร Supermarket และลานจอดรถรองรับได้ถึง 400 คัน

2. จุดพักรถมอเตอร์เวย์ Premium Outlet อยุธยา

จุดพักรถมอเตอร์เวย์ขาออกที่ตั้งอยู่บนถนนสายเอเชีย นอกจากเป็นที่พักรถแล้วยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งแบรนด์ดังกว่า 300 แบรนด์ เปิดบริการ 10.00-21.00 น.

3. จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ลาดกระบัง

จุดพักรถมอเตอร์เวย์ที่มีทั้งขาเข้าและขาออก พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง มีศาลาพักผ่อนและห้องน้ำติดแอร์ที่ใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์

4. จุดพักรถมอเตอร์เวย์ Porto Go บางปะอิน

จุดพักรถมอเตอร์เวย์ขาเข้าสำหรับคนเดินทางจากภาคเหนือและอีสาน มีร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ และบริการ Drive Thru พร้อมห้องน้ำระบบ Zero Touch

5. จุดพักรถมอเตอร์เวย์ The Rest Area ประชาชื่น

จุดพักรถมอเตอร์เวย์ที่แบ่งโซนร้านอาหารและปั๊มน้ำมันชัดเจน มีร้านอาหาร ร้านกาแฟ และห้องน้ำติดแอร์ เหมาะสำหรับคนเดินทางไปอยุธยา สระบุรี

6. จุดพักรถมอเตอร์เวย์ ไปชลบุรี

จุดพักรถมอเตอร์เวย์บางปะกงที่มีทั้งขาเข้าและขาออก รวมร้านอาหาร ร้านของฝาก และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เหมาะสำหรับคนเดินทางไปภาคตะวันออก

ขับรถทางไกลต้องพักรถไหม

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้พักรถทุก 150-200 กิโลเมตร หรือทุก 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกาย และเครื่องยนต์ได้พักและป้องกันอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า

ก่อนขับรถทางไกลต้องเช็กอะไรบ้าง

หลายคนที่ใช้รถเป็นประจำอาจรู้ดีว่าต้องเช็กรถอย่างไร แต่สำหรับคนที่ไม่ได้เดินทางไกลมากนัก เรามาดูจุดตรวจเช็กสำคัญ ๆ ก่อนออกเดินทางกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

1. ตรวจเช็กสภาพรถโดยรวม

เริ่มจากการตรวจเช็กสภาพรถโดยรวม ทั้งระบบเบรกให้ทำงานปกติ เช็กผ้าเบรกและน้ำมันเบรก พร้อมตรวจสอบระบบกันสะเทือนและช่วงล่าง สังเกตความผิดปกติของเสียงเครื่องยนต์และการสั่น รวมถึงระบบปรับอากาศ และน้ำฉีดกระจกต้องพร้อมใช้งาน

2. เช็กลมยางและสภาพยาง

การเช็กลมยางเป็นสิ่งสำคัญ ต้องตรวจวัดลมยางทุกล้อรวมถึงยางอะไหล่ให้ได้มาตรฐาน ดูความลึกดอกยางต้องไม่น้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร ไม่มีรอยฉีกขาด การสึกหรอต้องสม่ำเสมอ และไม่มีรอยบวมหรือรั่วซึม

3. ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้า และแสงสว่างต้องทำงานได้ครบทุกดวง ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเบรก และไฟเลี้ยว ตรวจสอบแบตเตอรี่ให้ขั้วแน่นไม่มีคราบขี้เกลือ ระบบปัดน้ำฝนต้องทำงานปกติ และควรมีฟิวส์สำรองติดรถไว้

4. เช็กระบบน้ำมันและความเย็น

เช็กระดับน้ำมันเครื่อง และน้ำหล่อเย็นให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม สังเกตการรั่วซึมของน้ำมันเครื่องและน้ำในหม้อน้ำ ตรวจดูสายพานต่างๆ ต้องไม่หย่อนหรือแตก รวมถึงถังพักน้ำต้องมีน้ำเพียงพอ

5. เตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉิน

สุดท้ายอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินให้พร้อม ทั้งแม่แรง ประแจล้อ สายจั๊มแบตเตอรี่ ไฟฉาย สามเหลี่ยมสะท้อนแสง เครื่องมือช่างพื้นฐาน ชุดปฐมพยาบาล ถังดับเพลิง สเปรย์ยางอุดรอยรั่ว รวมถึงน้ำดื่มและอาหารว่างสำหรับระหว่างทาง

สรุปบทความ

นอกการเตรียมความพร้อมแล้วในจุดพักรถมอเตอร์เวย์แล้ว การเลือกใช้ยางที่มีคุณภาพอย่าง NEXEN ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ผู้ใช้รถควรลอง แต่หลายคนอาจสงสัยว่ายาง NEXEN ดีไหม ต้องบอกว่าเป็นยางที่ได้รับความนิยมสำหรับการเดินทางไกล ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดี และราคาที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในเมืองและการเดินทางไกลเป็นที่สุด ไม่ว่าจะเป็นยางรถยนต์ขอบ 15 ไปจนถึงยางรถยนต์ขอบ 17 ที่นิยมใช้งานก็ตาม NEXEN ก็มีหลากหลายซีรีส์ไว้รองรับทุกการใช้งาน

สัมผัสความนุ่มนวลเหนือระดับไปกับเน็กเซ็น ได้ง่าย ๆ ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada

พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND