รวม 8 วิธีตรวจเช็กสภาพรถเบื้องต้นก่อนเดินทางไกล
การตรวจสภาพรถก่อนออกเดินทางเป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ไม่ควรละเลย เพราะนอกจากจะช่วยให้การเดินทางราบรื่นแล้ว ยังเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง วันนี้ เน็กเซ็นจะพามาเรียนรู้วิธีตรวจสภาพรถก่อนเดินทางให้อุ่นใจหายห่วงกัน
ทำไมการตรวจสภาพรถก่อนเดินทางไกลถึงสำคัญ
การตรวจสอบสภาพรถมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไกล เพราะรถยนต์ต้องทำงานหนักและต่อเนื่อง หากรถยนต์สตาร์ทไม่ติดหรือเกิดปัญหากลางทาง อาจส่งผลให้การเดินทางล่าช้าหรือเกิดอันตรายได้ การตรวจสภาพรถก่อนเดินทางจึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก
8 จุดตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางไกลเบื้องต้น
การตรวจสภาพรถมีหลายจุดสำคัญที่ต้องใส่ใจ เพื่อให้แน่ใจว่ารถของคุณพร้อมสำหรับการเดินทางไกล มาดูกันว่ามีจุดไหนบ้างที่ต้องตรวจสอบ
1. ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง
การตรวจสอบสภาพรถควรเริ่มจากการเช็กระดับน้ำมันเครื่องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพและปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดการเดินทาง โดยให้สังเกตดูจากก้านวัดที่ดึงขึ้นมา ซึ่งจะต้องอยู่ตรงกลางระหว่างขีดบนกับล่าง
2. ตรวจสอบระดับน้ำหล่อเย็น
ระบบหล่อเย็นเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิของเครื่องยนต์ การตรวจสภาพรถในส่วนนี้ต้องดูทั้งระดับน้ำในหม้อน้ำ และการทำงานของพัดลม รวมถึงตรวจสอบการรั่วซึมของท่อต่าง ๆ แต่ง่ายที่สุดก็คือการดูระดับน้ำหล่อเย็นให้อยู่ระหว่าง MIN กับ MAX และดูอุณหภูมิเครื่องยนต์ร่วมด้วย
3. ตรวจสอบระบบเบรก
การตรวจสอบสภาพรถในส่วนของระบบเบรกเป็นสิ่งสำคัญ ต้องตรวจดูระดับน้ำมันเบรก สภาพผ้าเบรก และทดสอบการทำงานของระบบเบรก หากมีเสียงดังผิดปกติหรือรู้สึกว่าประสิทธิภาพลดลง ควรรีบแก้ไขทันที
4. เช็กสภาพยางรถยนต์
ยางรถยนต์เป็นอีกจุดสำคัญ ที่ต้องตรวจเช็กให้ดีทุกครั้ง โดยเบื้องต้นให้สังเกตด้วยสายตาว่ามีอาการแบนไหม รวมไปถึงการเช็กสภาพดอกยาง และรอยรั่วซึมต่าง ๆ หากไม่มีอาการผิดปกติก็ให้นำไปเติมลมตามค่ามาตรฐาน
5. ตรวจสอบไฟหน้าและไฟท้าย
ระบบไฟเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญในการตรวจสอบสภาพรถ ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรก ต้องทำงานได้อย่างสมบูรณ์ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ โดยเฉพาะเวลากลางคืนที่จำเป็นจะต้องใช้ไฟนำทาง
6. ตรวจเช็กแบตเตอรี่
การตรวจสภาพรถก่อนเดินทางต้องให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่ด้วย ให้ดูว่าขั้วแบตเตอรี่สะอาด ไม่มีคราบขี้เกลือ และแรงดันไฟเพียงพอ และสามารถสตาร์ทติดได้ง่าย ๆ ในครั้งเดียว หากมีอาการสตาร์ทติดยากให้รีบนำไปแก้ไขทันที
7. ตรวจสอบระบบปรับอากาศ
ระบบปรับอากาศที่ทำงานได้ดีจะช่วยให้การเดินทางสบายขึ้น ตรวจสอบความเย็น การไหลเวียนของลม และฟังเสียงการทำงานว่ามีความผิดปกติหรือไม่
8. ตรวจเช็กระบบพวงมาลัย
การตรวจสภาพรถต้องรวมถึงระบบพวงมาลัย ทดสอบการหมุนว่าคล่องตัวดี ไม่มีเสียงดังผิดปกติ และไม่มีอาการสั่น เพราะระบบพวงมาลัยมีผลโดยตรงต่อการควบคุมรถอย่างมาก
สรุปบทความ
จะเห็นได้ว่าการตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางไกล เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะหากเกิดมีปัญหาระหว่างทางขึ้นมา มันจะไม่ใช่เพียงค่าใช้จ่ายที่ต้องเสียมากขึ้น แต่ยังหมายถึงความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุด้วยเช่นกัน และที่สำคัญที่สุดก็คือการเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพดีในการเดินทางไกล NEXEN TIRE มียาง NEXEN ROADIAN CT8 ที่แบกรับน้ำหนักได้มากสำหรับรถกระบะ และมีความทนทานเหมาะเดินทางไกลได้อย่างหายห่วง
สัมผัสความนุ่มนวลเหนือระดับไปกับเน็กเซ็น ได้ง่าย ๆ ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada
พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND