เติมลมยางรถกระบะอย่างไร ให้เหมาะกับการใช้งานและปลอดภัย
รู้หรือไม่ว่าจะต้องเติมลมยางเท่าไรถึงจะพอดี ถ้าไปถามคนขับรถกระบะอาจจะได้คำตอบอย่างหนึ่ง ไปถามคนขับรถเก๋งก็จะได้คำตอบอีกอย่างหนึ่ง ถ้าไปถามคนขับรถตู้ก็จะบอกอีกตัวเลขหนึ่ง และหนำซ้ำถ้าไปถามคนที่ขับรถกระบะที่บรรทุกของหนัก ก็อาจจะได้คำตอบที่แตกต่างไปจากคนขับกระบะคันแรกอีกด้วย วันนี้เราเลยจะมาบอกวิธีการเติมลมยางรถกระบะอย่างถูกต้อง และปลอดภัยให้ได้รู้กัน
เติมลมยางรถกระบะกับรถเก๋งเหมือนกันหรือไม่
แน่นอนว่าการเติมลมยางรถกระบะกับรถเก๋งไม่มีทางที่จะเหมือนกัน 100% เพราะแค่รถเก๋งที่มีขนาดต่างกัน ก็ยังเติมลมยางในค่าความดันที่แตกต่างกันเลย ซึ่งรถยนต์แต่ละประเภท แต่ละขนาด และแต่ละคัน มีน้ำหนักบรรทุกที่แตกต่างกัน และยังไม่นับรวมถึงการใช้งานที่แตกต่างกันอีก คำถามก็คือ แล้วรถของเราควรเติมลมยางที่ความดันเท่าไรดี?
ปกติแล้วค่าความดันของลมยางจะคิดเป็นหน่วย PSI (Pounds per Square Inch) หรือปอนด์ต่อตารางนิ้ว ซึ่งรถแต่ละขนาดมีมาตรฐานในการเติมลมยางดังต่อไปนี้
- รถกระบะ 35-40 PSI
- รถเก๋งขนาดเล็ก 25-30 PSI
- รถเก๋งขนาดกลางและใหญ่ 30-35 PSI
- รถตู้ 43-55 PSI
- รถบรรทุกใหญ่ 85-125 PSI
รถกระบะบรรทุกเยอะต้องเพิ่มลมยาง
ไม่เพียงแค่รถยิ่งใหญ่ ยิ่งหนัก ยิ่งเพิ่มค่าความดันมากขึ้น แต่ยิ่งบรรทุกของหนักมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องเพิ่มค่าความดันลมยางให้เพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างเช่น รถกระบะที่ไม่บรรทุกของค่าความดันที่เหมาะสมสำหรับล้อหน้าอาจจะอยู่ที่ 35 PSI และล้อหลังอยู่ที่ 40 PSI แต่หากว่าบรรทุกของหนัก ค่าความดันที่เหมาะสมสำหรับล้อหน้าอาจจะอยู่ที่ 35 เท่าเดิม แต่ล้อหลังคือ 45 PSI*
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะเติมลมยางเท่าไรถึงจะพอดีกับของที่บรรทุก?
แม้ว่ารถของคุณจะมีตัวเลขบอกถึงค่าความดันของลมยางรถกระบะที่เหมาะสม ทั้งในกรณีที่บรรทุกของ และไม่บรรทุกของ แต่หลายคนก็พบว่า ค่าที่ให้มาในคู่มืออาจจะไม่เหมาะกับการขนของบางอย่าง เราขอแนะนำให้คุณใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ
หากขับรถคันดังกล่าวเป็นประจำแล้วรู้สึกว่าหมุนพวงมาลัยยากกว่าปกติ แสดงว่าลมยางของคุณอ่อนไป ให้เติมลมยางเพิ่มอีกสัก 2-3 ปอนด์ แต่หากว่ารู้สึกว่ากระเด้งหรือโคลงเคลงผิดปกติ แสดงว่าลมยางของคุณแข็งเกินไป ควรจะลดลงข้างละ 2-3 ปอนด์ และถ้าคุณต้องขับรถในระยะทางที่ไกลขึ้นกว่าเดิม การเติมลมยางรถกระบะเพิ่มขึ้น 2-3 PSI ก็จะช่วยให้การเดินทางของคุณปลอดภัยยิ่งขึ้นเช่นกัน
*หมายเหตุ ค่าความดันที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับรุ่นรถที่ระบุไว้ที่คู่มือ
ข้อควรรู้ในการเติมลมยางรถกระบะ
นอกจากเรื่องการเติมค่าความดันที่เหมาะสมกับขนาดรถและการบรรทุกแล้ว มีข้อควรรู้เกี่ยวกับการเติมลมยางดังต่อไปนี้
- ควรเช็กลมยางเป็นประจำ และเติมลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง การขับรถด้วยลมยางที่เหมาะสมจะช่วยทั้งประหยัดน้ำมัน เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ และยืดอายุการใช้งานของยางได้อีกด้วย
- เติมลมยางในช่วงอากาศไม่ร้อน และจอดรถพักมาสักครู่หนึ่งแล้ว แม้ว่าหลายคนจะเติมลมยางในช่วงเวลาหลังจากเติมน้ำมัน หรือเลือกช่วงเวลาที่สะดวก แต่รู้ไหมว่า การเติมลมยางในช่วงเวลาที่ยางรถยนต์เย็นจะทำให้ค่าที่วัดได้ไม่คลาดเคลื่อนไปจากค่าจริงมากนัก การเติมลมยางในช่วงอากาศร้อน อาจจะทำให้คุณเติมลมยางผิดไปจากค่าที่ต้องการ
- รถกระบะไม่ควรเติมลมยางเท่ากันทั้งสี่ล้อ ควรเติมให้ล้อหลังมีค่าความดันมากกว่าล้อหน้า เพื่อรองรับการบรรทุกของ และป้องกันการกระเด้งกระดอนระหว่างขับขี่
สรุปเกี่ยวกับการเติมลมยางรถกระบะ
มาถึงตรงนี้ คงเข้าใจกันแล้วว่าการเติมลมรถกระบะนั้นมีมาตรฐานอย่างไร และแตกต่างจากรถเก๋งที่มีขนาดเล็กกว่าอย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กับลมยางรถกระบะก็คือ การเลือกใช้ยางให้ถูกประเภท และตรงกับการขับขี่ โดยดูว่าเน้นขับในชีวิตประจำวัน ขับในเมือง ถนนเรียบ หรือถนนขรุขระ บรรทุกของหนักหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและเพิ่มสมรรถนะในการใช้งาน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับยางรถยนต์เส้นใหม่สำหรับรถกระบะหรือสอบถามเกี่ยวกับการเติมลมยางรถกระบะ ได้ที่ Nexen Tire Thailand Line : @nexen.th หรือโทร. 02-930-4115-8