ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อม เกิดจากอะไร มีสัญญาณเตือนอะไรบ้าง
ปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมเป็นหนึ่งในปัญหายอดฮิตที่ผู้ใช้รถมักเจอ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการใช้งานรถมาสักระยะหนึ่ง การทราบสาเหตุ และสัญญาณเตือนของแบตเตอรี่เสื่อมจะช่วยให้เราสามารถป้องกัน และแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที วันนี้ เน็กเซ็กจะมาเจาะลึกทุกเรื่องเกี่ยวกับแบตเตอรี่ให้เอง
อาการแบตเตอรี่เสื่อม เกิดจากอะไร
การที่แบตเตอรี่เสื่อมนั้นมีสาเหตุได้หลายประการ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้งานที่ไม่ถูกวิธีหรือขาดการดูแลที่เหมาะสม รวมถึงพฤติกรรมการใช้รถที่อาจเร่งให้เกิดอาการแบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติ มาดูกันว่ามีสาเหตุอะไรบ้าง
ลืมเปิดไฟหน้ารถทิ้งไว้
หนึ่งในสาเหตุหลักของอาการแบตเตอรี่เสื่อมคือการลืมปิดไฟหน้ารถ ทำให้แบตเตอรี่จ่ายไฟอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีการชาร์จกลับ ส่งผลให้แบตเตอรี่คายประจุจนหมด และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
จอดรถทิ้งไว้นานโดยไม่สตาร์ต
การจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานโดยไม่มีการสตาร์ตเครื่อง เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดแบตเตอรี่เสื่อมก่อนเวลาอันควร เพราะแบตเตอรี่จะค่อย ๆ คายประจุตามธรรมชาติ
ไดชาร์จพัง
ไดชาร์จที่มีปัญหาจะไม่สามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ได้อย่างเต็มที่ ทำให้แบตเตอรี่ไม่ได้รับการชาร์จที่เพียงพอ นำไปสู่อาการแบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติ
น้ำกลั่นสกปรก
น้ำกลั่นที่สกปรกหรือมีระดับไม่เหมาะสมส่งผลให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น โดยเฉพาะในแบตเตอรี่แบบเติมน้ำกลั่น
ไฟฟ้าลัดวงจร
ระบบไฟฟ้าที่มีปัญหาลัดวงจรจะทำให้แบตเตอรี่ทำงานหนักเกินไป เร่งให้เกิดอาการแบตเตอรี่เสื่อมก่อนเวลา
5 สัญญาณเตือนแบตเตอรี่เสื่อมที่ห้ามมองข้าม
การสังเกตสัญญาณเตือนของแบตเตอรี่เสื่อม เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้ก่อนที่แบตเตอรี่จะเสียหายจนใช้งานไม่ได้ มาดูกันว่ามีสัญญาณเตือนอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่กำลังมีปัญหา
1. รถสตาร์ตติดยาก
สัญญาณเตือนแบตเตอรี่เสื่อมที่พบบ่อยที่สุดคือรถสตาร์ตติดยาก โดยจะได้ยินเสียงมอเตอร์สตาร์ตหมุนช้าหรือไม่มีกำลัง
2. ไฟหน้าสว่างน้อยลง
อาการแบตเตอรี่เสื่อมอีกอย่างที่สังเกตได้ง่ายคือไฟหน้ารถสว่างน้อยลง โดยเฉพาะเมื่อเครื่องยนต์เดินเบา
3. อุปกรณ์ไฟฟ้ารวน
เมื่อรถมีอาการแบตเตอรี่เสื่อม อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น วิทยุ กระจกไฟฟ้า จะทำงานผิดปกติหรือทำงานช้าลง
4. แตรไม่ดัง
แตรที่มีเสียงเบาลงหรือไม่ดังเลยเป็นอีกหนึ่งสัญญาณของแบตเตอรี่เสื่อมที่ควรใส่ใจ
5. แอร์เริ่มไม่เย็น
ระบบปรับอากาศที่ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพอาจเป็นผลมาจากแบตเตอรี่เสื่อม และจ่ายไฟได้ไม่เพียงพอ
ควรดูแลแบตเตอรี่รถยนต์อย่างไรให้อยู่ได้นาน
การดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และป้องกันการเกิดแบตเตอรี่เสื่อมก่อนเวลาอันควร มาดูวิธีการดูแลรักษาที่ถูกต้องกัน
- ตรวจเช็กระดับน้ำกลั่นสม่ำเสมอ : สำหรับแบตเตอรี่แบบเติมน้ำ ควรตรวจสอบระดับน้ำกลั่นทุกเดือน และเติมเมื่อต่ำกว่าขีดกำหนด
- หมั่นทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ : ขจัดคราบสกปรก และสนิมที่ขั้วแบตเตอรี่เป็นประจำ เพื่อให้การจ่ายไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
- สตาร์ตรถสม่ำเสมอ : หากจำเป็นต้องจอดรถนาน ควรสตาร์ตรถอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และปล่อยให้เครื่องเดินสัก 15-20 นาที
- ตรวจสอบระบบไฟฟ้า : ควรให้ช่างตรวจสอบระบบไฟฟ้า และการทำงานของไดชาร์จเป็นประจำ เพื่อป้องกันปัญหาแบตเตอรี่เสื่อมก่อนเวลา
สรุปบทความ
การดูแลและเอาใจใส่แบตเตอรี่รถยนต์อย่างถูกวิธี จะช่วยยืดอายุการใช้งาน และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว โดยต้องไม่ลืมสังเกตสัญญาณเตือนของแบตเตอรี่เสื่อม และรีบแก้ไขเมื่อพบความผิดปกติในทันที ไม่ต่างจากการดูแลยางรถยนต์ ที่หลายคนมักไม่รู้ว่ายางรถยนต์ควรเปลี่ยนเมื่อไหร่ จะเช็กความผิดปกติในการขับขี่ได้อย่างไร ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่สามารถศึกษาได้ไม่ยาก เพียงติดตามสาระความรู้ดี ๆ จาก NEXEN ที่คอยอัปเดตข้อมูลเรื่องรถอยู่เป็นประจำ และหากคุณอยากได้ยางคุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่า NEXEN คือตัวเลือกที่ห้ามพลาด เพราะเป็นแบรนด์ยางสัญชาติเกาหลี ที่มีซีรีส์ยางให้เลือกใช้มากมาย ทั้งยางรถเก๋งซีดาน ยาง SUV หรือแม้แต่ยางรถกระบะ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะและความคุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกความต้องการได้อย่างสบายใจ
สัมผัสความนุ่มนวลเหนือระดับไปกับเน็กเซ็น ได้ง่าย ๆ ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada
พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND