fbpx

ปัญหาเลี้ยวรถมีเสียงดัง เกิดจากอะไร ควรปล่อยไว้ไหม

เลี้ยวรถมีเสียงดัง ปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ่อยกับรถทุกคัน และยังเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ จึงอาจทำให้ผู้ใช้รถหลายคนจับสังเกตอาการไม่ถูก และไม่รู้ว่าเสียงดังเวลาเลี้ยวรถนี้อันตรายหรือเปล่า ยังขับต่อได้ไหม เดี๋ยววันนี้ เน็กเซ็น จะมาอธิบายถึงปัญหานี้ให้กับคนใช้รถได้เข้าใจกัน 

สาเหตุที่ทำให้การเลี้ยวรถมีเสียงดัง

เมื่อเลี้ยวรถแล้วมีเสียงดัง อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระบบช่วงล่าง ระบบบังคับเลี้ยว และล้อยาง ดังนี้

ปัญหาจากระบบช่วงล่าง

  • ลูกหมากปีกนกเสื่อม : เมื่อลูกหมากปีกนกเสื่อมสภาพ เราจะได้ยินเสียงดัง “กุก กุก” หรือ “ก๊อก ก๊อก” เวลาเลี้ยว โดยเฉพาะเมื่อหักพวงมาลัยจนสุด นอกจากนี้ เราอาจรู้สึกว่าพวงมาลัยสั่นหรือกระตุกเล็กน้อยขณะเลี้ยว และอาจสังเกตเห็นยางสึกไม่เท่ากัน
  • โช้คอัพเสื่อม : โช้คอัพที่หมดสภาพไม่เพียงทำให้เกิดเสียงดังเวลาเลี้ยวเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้รถโยกหรือกระดอนมากเกินไปเมื่อขับผ่านพื้นขรุขระ ซึ่งเราอาจสังเกตเห็นน้ำมันรั่วซึมบริเวณโช้คอัพ และรู้สึกว่ารถทรงตัวไม่ดีเวลาเข้าโค้งหรือเบรกกะทันหัน
  • บูชยางเสื่อมสภาพ : เมื่อบูชยางสึกหรอ เราจะได้ยินเสียงดังคล้าย “เอี๊ยด” หรือ “ครืด” เวลาเลี้ยว โดยเฉพาะเมื่อขับช้า ๆ หรือเลี้ยวในที่แคบ นอกจากนี้ รถอาจมีอาการสั่นสะเทือนที่พวงมาลัยมากกว่าปกติ และอาจสังเกตเห็นยางสึกไม่สม่ำเสมอหรือผิดปกติ

ปัญหาจากระบบบังคับเลี้ยว

ปัญหาจากระบบบังคับเลี้ยว-lg

  • แร็คพวงมาลัยมีปัญหา : เมื่อแร็คพวงมาลัยเสื่อมสภาพ เราอาจได้ยินเสียงดังคล้าย “กึก กึก” หรือรู้สึกว่าพวงมาลัยสั่นขณะเลี้ยว นอกจากนี้ พวงมาลัยอาจหลวมหรือมีระยะฟรีมากขึ้นด้วย
  • น้ำมันพาวเวอร์รั่วหรือหมด : หากระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ขาดน้ำมัน เราอาจได้ยินเสียงหวีดหรือเสียงครางเวลาเลี้ยว โดยเฉพาะเมื่อเลี้ยวสุด นอกจากนี้ อาจมองเห็นรอยน้ำมันรั่วใต้รถบริเวณใกล้ล้อหน้า
  • ลูกปืนคอพวงมาลัยเสื่อม : เมื่อลูกปืนคอพวงมาลัยมีปัญหา เราอาจรู้สึกว่าพวงมาลัยฝืดหรือติดขัดในบางจุดขณะหมุน และอาจได้ยินเสียงดังกรอบแกรบเวลาเลี้ยวพวงมาลัยสุดซ้ายหรือขวา

ปัญหาจากล้อและยาง

  • ยางสึกหรอไม่เท่ากัน : เราอาจรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่พวงมาลัยหรือที่นั่งเวลาเลี้ยว โดยเฉพาะที่ความเร็วต่ำถึงปานกลาง รถอาจมีแนวโน้มที่จะดึงไปด้านใดด้านหนึ่งเล็กน้อยขณะขับตรง และประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนอาจลดลง โดยเฉพาะในสภาพถนนเปียกหรือลื่น
  • ศูนย์ล้อไม่ตรง : จะสังเกตเห็นการสั่นสะเทือนที่พวงมาลัยเวลาเลี้ยว โดยเฉพาะที่ความเร็วสูง ยางอาจสึกไม่เท่ากัน และรถอาจมีอาการดึงไปด้านใดด้านหนึ่งเมื่อปล่อยพวงมาลัย นอกจากนี้ยังอาจส่งผลให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น
  • ลูกปืนล้อเสื่อม : เราอาจรู้สึกถึงการสั่นสะเทือนที่พื้นรถหรือที่นั่ง ทั้งเวลาเลี้ยวและขับตรง โดยอาการจะชัดเจนขึ้นเมื่อเพิ่มความเร็ว ล้ออาจมีการหลวมหรือคลอนเมื่อตรวจสอบ และอาจส่งผลให้ระบบเบรกทำงานไม่มีประสิทธิภาพ

อาการเสียงดังเวลาเลี้ยว ขับต่อได้ไหม

อาการเสียงดังเวลาเลี้ยว-ขับต่อได้ไหม-rt-lg

คำตอบคือ ไม่ควรขับต่อหรือปล่อยไว้นาน เพราะอาจนำไปสู่ปัญหาที่ร้ายแรงกว่าเดิมได้ เนื่องจากการควบคุมรถอาจทำได้ยากขึ้น และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ ค่าซ่อมอาจสูงขึ้นจากความเสียหายที่อาจลุกลามไปยังชิ้นส่วนอื่น ๆ ด้วย ดังนั้น เมื่อพบว่ามีเสียงดังผิดปกติเวลาเลี้ยว ควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่ไว้ใจได้โดยเร็วเพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหา ก่อนที่จะลุกลามจนเกิดความเสียหายที่รุนแรงและอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่

สรุปบทความ 

ผู้ใช้รถน่าจะเห็นได้ว่า ปัญหาเลี้ยวรถมีเสียงดัง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ และเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยในการนำไปตรวจเช็กโดยเด็ดขาด เพราะช่วงล่างรถยนต์ เป็นส่วนที่สำคัญในการยึดเกาะถนน ไม่ต่างจากการเลือกใช้ยางรถยนต์คุณภาพดีจาก NEXEN ที่มีทั้งยางที่ให้ความนุ่มนวล ปลอดภัย ขับขี่สบาย หรือยางรถยนต์ NEXEN N’FERA SU1 สไตล์สปอร์ต ที่ให้ความมั่นใจในการยึดเกาะถนนทั้งพื้นผิวเปียกหรือแห้ง จึงช่วยสร้างความอุ่นใจในการใช้รถได้เป็นอย่างดี 

สัมผัสความนุ่มนวลเหนือระดับไปกับเน็กเซ็น ได้ง่าย ๆ ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada

พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND