fbpx

รวมทุกเรื่องที่ต้องรู้ก่อนทดลองขับรถ Test Drive

การทดลองขับรถ หรือ Test Drive เป็นขั้นตอนสำคัญก่อนตัดสินใจซื้อรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นรถใหม่หรือรถมือสอง เพราะการเทสไดร์ฟช่วยให้ผู้ใช้รถได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่จริง และตรวจสอบคุณภาพของรถได้อย่างละเอียด วันนี้ เน็กเซ็น ได้รวบรวมทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการทดลองขับรถ เพื่อให้คุณได้รถที่ใช่ และคุ้มค่าที่สุดมาฝากกัน 

ทำไมการทดลองขับรถ Test Drive จึงสำคัญ

ผู้ใช้รถหลายคนอาจคิดว่า การทดลองขับรถที่ต้องการซื้ออาจไม่สำคัญขนาดนั้น ขอเพียงแค่ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นก่อนก็พอ ซึ่งนั่นอาจเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ เพราะความรู้สึกในการขับขี่อย่างช่วงล่าง พวงมาลัย เบาะโดยสาร และอัตราตอบสนองของคันเร่ง เป็นสิ่งที่ต้องไปสัมผัสด้วยตัวเองถึงจะรู้ จึงจะตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่ารถคันที่เราเล็งไว้เหมาะกับเราจริงไหม 

 

ก่อนทดลองขับรถต้องทำอะไรบ้าง

ผู้ใช้รถหลายคนที่ยังไม่เคยเทสไดร์ฟรถ อาจจะกังวลว่าควรเตรียมตัวอย่างไร เรามีขั้นตอนแบบง่าย ๆ มาฝากกัน 

  1. ศึกษาข้อมูลรถ : ควรหาข้อมูลเกี่ยวกับรถรุ่นที่สนใจให้มากที่สุด ทั้งจากเว็บไซต์ รีวิว และวิดีโอต่าง ๆ
  2. เตรียมคำถาม : จดคำถามที่อยากถามเกี่ยวกับรถเอาไว้ เพื่อสอบถามพนักงานขายระหว่างการทดลองขับ
  3. นัดหมายล่วงหน้า : ติดต่อศูนย์รถยนต์ หรือเจ้าของรถเพื่อนัดวันเวลาทดลองขับ
  4. เตรียมเอกสาร : เตรียมใบขับขี่ และเอกสารที่จำเป็นให้พร้อม
  5. วางแผนเส้นทาง : คิดไว้ล่วงหน้าว่าอยากทดลองขับในเส้นทางแบบไหนบ้าง 

จุดที่ต้องสังเกตเมื่อทดลองขับรถ Test Drive

จุดที่ต้องสังเกตเมื่อทดลองขับรถ Test Drive

เมื่อรู้กันไปแล้วว่าต้องเตรียมตัวอย่างไร ทีนี้เราจะพามาดูจุดสังเกตที่ควรให้ความสำคัญเมื่อต้องเทสไดร์ฟรถกันต่อ ดังนี้ 

ความสบายของเบาะนั่ง

เมื่อทดลองขับรถ สิ่งแรกที่ต้องให้ความสำคัญก็คือเบานั่ง ให้ทดลองปรับเบาะในทุกทิศทางเพื่อหาตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด สังเกตว่าเบาะรองรับร่างกายได้ดีหรือไม่ มีพื้นที่เพียงพอสำหรับขา และศีรษะหรือเปล่า และลองนั่งเป็นเวลานานเพื่อดูว่าเกิดอาการปวดเมื่อยหรือไม่ นอกจากนี้ ควรทดสอบเบาะนั่งทุกตำแหน่งในรถ โดยเฉพาะถ้าคุณมีครอบครัว หรือต้องรับส่งสมาชิกในครอบครัวบ่อย ๆ

ความกระชับมือของพวงมาลัย

พวงมาลัยเป็นจุดสัมผัสสำคัญระหว่างคนขับกับรถ ทดสอบความกระชับ และความนุ่มนวลในการหมุนพวงมาลัย สังเกตว่าพวงมาลัยตอบสนองต่อการบังคับทิศทางได้ดีเพียงใด ไม่หนักหรือเบาจนเกินไป ลองปรับระดับพวงมาลัยเพื่อหาตำแหน่งที่สบายที่สุด และทดสอบการทำงานของปุ่มควบคุมต่าง ๆ บนพวงมาลัย เช่น ระบบเครื่องเสียง หรือระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ

วิสัยทัศน์จากที่นั่งคนขับ

วิสัยทัศน์ที่ดีเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความปลอดภัยในการขับขี่ ตรวจสอบมุมมองรอบทิศทางจากที่นั่งคนขับ ทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง สังเกตว่ามีจุดบอดหรือไม่ ปรับกระจกมองข้าง และกระจกมองหลังให้เหมาะสม ทดสอบการมองเห็นในสภาพแสงต่าง ๆ และตรวจสอบว่าเสาของรถบดบังวิสัยทัศน์หรือไม่ นอกจากนี้ ควรทดสอบระบบช่วยมองภาพรอบทิศทาง (ถ้ามี) เช่น กล้องมองหลังหรือเซนเซอร์ช่วยจอด

การตอบสนองของอัตราเร่ง

ควรทดสอบการตอบสนองของอัตราเร่งในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การออกตัว การเร่งแซง และการขับบนทางด่วน สังเกตว่าเครื่องยนต์มีกำลังเพียงพอ และตอบสนองทันทีเมื่อเหยียบคันเร่งหรือไม่ ทดสอบในโหมดขับขี่ต่าง ๆ (ถ้ามี) เพื่อเปรียบเทียบการทำงานของเครื่องยนต์ และสังเกตว่ามีอาการสั่น หรือเสียงผิดปกติเมื่อเร่งความเร็วหรือไม่ การทดสอบนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่ารถมีสมรรถนะเพียงพอกับการใช้งานมากน้อยแค่ไหน

การยึดเกาะถนนของช่วงล่าง

ช่วงล่างที่ดีจะช่วยให้การขับขี่นุ่มนวลและปลอดภัย ควรทดสอบการยึดเกาะถนนในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น การเข้าโค้ง การขับบนถนนขรุขระ และการเบรกกะทันหัน สังเกตว่ารถมีอาการโยนตัว หรือกระดอนมากเกินไปหรือไม่ ทดสอบการทรงตัวของรถเมื่อเจอพื้นผิวถนนที่ต่างกัน และสังเกตว่ามีเสียงดังผิดปกติจากช่วงล่างไหม ซึ่งช่วงล่างที่ดีควรให้ความรู้สึกมั่นคง และควบคุมได้ง่ายในทุกสภาพถนน

ระบบเบรกที่ไว้ใจได้

ระบบเบรกเป็นส่วนสำคัญที่สุดสำหรับความปลอดภัย ควรทดสอบการทำงานของเบรกในสถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งการเบรกปกติ และการเบรกฉุกเฉิน สังเกตระยะทางในการหยุดรถ และความรู้สึกที่แป้นเบรก ซึ่งควรให้ความรู้สึกแน่นและตอบสนองดี ไม่นุ่มหรือแข็งเกินไป นอกจากนี้ ควรทดสอบเบรกมือหรือเบรกไฟฟ้าด้วย โดยเฉพาะบนทางลาดชัน

การเก็บเสียงของห้องโดยสาร

ห้องโดยสารที่เงียบสงบจะช่วยเพิ่มความสบายในการขับขี่ ทดสอบการเก็บเสียงในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น ขณะขับในเมือง บนทางด่วน และบนถนนขรุขระ สังเกตระดับเสียงจากภายนอกที่เข้ามาในห้องโดยสาร ทั้งเสียงลม เสียงยางกับถนน และเสียงเครื่องยนต์ ทดสอบระบบเครื่องเสียงเพื่อดูว่าสามารถใช้งานได้ชัดเจนโดยไม่ถูกรบกวนจากเสียงภายนอกมากเกินไป นอกจากนี้ ควรสังเกตว่ามีเสียงรบกวนจากชิ้นส่วนภายในรถ เช่น เสียงสั่น หรือเสียงลั่นจากแผงคอนโซลหรือไม่

สถานที่ที่ควรลองขับรถ Test Drive

สถานที่ที่ควรลองขับรถ Test Drive

เพื่อให้ได้ประสบการณ์การทดลองขับรถที่ครอบคลุมที่สุด ควรทดสอบในสถานที่หลากหลาย ได้แก่

  1. ในเมือง : เพื่อทดสอบการขับในสภาพจราจรหนาแน่น การเร่งและเบรกบ่อย ๆ
  2. ทางด่วน : สำหรับทดสอบความเร็วสูง เสถียรภาพของตัวรถ และระดับเสียงรบกวน
  3. ถนนขรุขระ : เพื่อตรวจสอบระบบกันสะเทือน และความสบายในการขับขี่
  4. เส้นทางคดเคี้ยว : ทดสอบการทรงตัว และการควบคุมในโค้ง
  5. ลานจอดรถ : เพื่อทดสอบการจอด การถอยหลัง และรัศมีวงเลี้ยว

สรุปบทความ

การเทสไดร์ฟ หรือ Test Drive เป็นขั้นตอนสำคัญในการเลือกซื้อรถที่ควรทำ เพราะช่วยให้ผู้ใช้รถประเมินสมรรถนะ ความสบาย และความเหมาะสมกับการใช้งานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ อย่าลืมให้ความสำคัญกับส่วนประกอบอื่น ๆ เช่น ยางรถยนต์ ซึ่งมีผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่อย่างมาก หากยางติดรถยังไม่ตอบโจทย์การใช้งาน ก็ควรเลือกเปลี่ยนมาใช้ยางรถยนต์คุณภาพดีอย่าง ยาง NEXEN N’FERA SU4 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นยางสไตล์สปอร์ตสมรรถนะสูง ยึดเกาะถนนได้ดีเยี่ยม แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ยาง NEXEN ดีไหม ก็ต้องบอกว่าเป็นยางคุณภาพดีสัญชาติเกาหลี ที่มีมาตรฐานในระดับสากล และถูกใช้เป็นยางติดรถให้กับแบรนด์ชั้นนำมากมาย 

สัมผัสความนุ่มนวลเหนือระดับไปกับเน็กเซ็น ได้ง่าย ๆ ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada

พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND