ใบขับขี่ ท2 สำคัญแค่ไหน? แตกต่างจากใบขับขี่ บ2 หรือไม่?
ทำใบขับขี่ให้ถูกประเภท ขับรถได้สบายใจ ไม่โดนปรับ
ใบขับขี่ หรือใบอนุญาตขับรถเป็นเอกสารที่กรมการขนส่งทางบกออกมาเพื่อแสดงถึงความสามารถในการขับขี่ปลอดภัยของแต่ละบุคคล โดยการทำใบขับขี่จะมีขั้นตอนการอบรม การทดสอบความรู้ความสามารถ และการขับขี่บนทางทดสอบ เพื่อประเมินคุณสมบัติของผู้ขับขี่ หากผ่านเกณฑ์จึงจะได้ใบขับขี่มาครอบครอง การทำใบขับขี่จึงเป็นสิ่งที่คนมีรถต้องทำ หากขับขี่โดยไม่มีใบอนุญาตขับรถจะถือว่ากระทำผิดกฎหมาย มีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท
ประเภทของใบขับขี่
ใบขับขี่ของไทย ไม่รวมใบขับขี่สากลแต่จะมีชื่อเรียกประเภทโดยมีตัวอักษรและตัวเลข เช่น ใบขับขี่ ท.2 จะประกอบด้วยตัวอักษร คือ ท และตัวเลข คือเลข 2 การแบ่งประเภทใบขับขี่จึงต้องมาดูประเภทที่มาของตัวอักษรและตัวเลขที่ใช้เรียกใบขับขี่ ดังนี้
ประเภทใบขับขี่ตามตัวอักษร
ใบขับขี่ที่แบ่งเป็นตัวอักษรจะแบ่งประเภทออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ใบขับขี่ประเภท บ. และใบขับขี่ประเภท ท. โดยทั้ง 2 ประเภทต่างกัน ดังนี้
1.) ใบขับขี่ประเภท บ.
ใบขับขี่ประเภทแรกจะใช้กับรถยนต์ส่วนบุคคล ใช้ประกอบกิจการ ขนส่ง หรือบรรทุกต่าง ๆ ตามวัตถุประสงค์ส่วนบุคคล ป้ายทะเบียนของใบขับขี่ประเภทนี้จะมีพื้นสีขาว และตัวเลข ตัวอักษรบนป้ายเป็นสีดำ
2.) ใบขับขี่ประเภท ท.
ใบขับขี่ประเภทนี้จะใช้ได้กับรถทุกประเภทที่ใช้ในการขนส่งสาธารณะ ผู้ขับขี่สามารถใช้ใบขับขี่ประเภทนี้แทนใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล และใบอนุญาตขับรถสาธารณะได้ รถที่ต้องใช้ใบขับขี่ประเภทนี้จะมีพื้นสีเหลือง และตัวเลข ตัวอักษรบนป้ายเป็นสีดำ
ประเภทใบขับขี่ตามตัวเลข
ตัวเลขที่แบ่งประเภทใบขับขี่มีอยู่ 4 ประเภท คือ ใบขับขี่ประเภทที่ 1 ใบขับขี่ประเภทที่ 2 ใบขับขี่ประเภทที่ 3 และใบขับขี่ประเภทที่ 4 ซึ่งมีความหมายต่างกัน ดังนี้
- ใบขับขี่ประเภทที่ 1 เป็นใบขับขี่สำหรับรถทั่วไปที่มีน้ำหนักบรรทุกไม่เกิน 3,500 กิโลกรัม และไม่ได้ขนส่งผู้โดยสาร หรือหากเป็นรถขนส่งผู้โดยสาร จะต้องมีผู้โดยสารไม่เกิน 20 คน เช่น รถแท็กซี่ รถตู้ รถมินิบัส
- ใบขับขี่ประเภทที่ 2 เป็นใบขับขี่สำหรับรถทั่วไปที่มีน้ำหนักบรรทุกเกิน 3,500 กิโลกรัม และไม่ได้ใช้ขนส่งผู้โดยสาร หรือหากใช้ขนส่งผู้โดยสารจะต้องมีผู้โดยสารเกิน 20 คน เช่น รถเมล์ รถ 6 ล้อ
- ใบขับขี่ประเภทที่ 3 เป็นรถที่มีการต่อพ่วง รถ 10 ล้อ หรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ มีการลากจูงรถอื่นเพื่อการบรรทุก เช่น รถลากจูง รถพ่วง
- ใบขับขี่ประเภทที่ 4 เป็นรถสำหรับการขนส่งเคมี เชื้อเพลิง หรือสารอันตราย มีการออกแบบตัวพ่วงที่มิดชิด เช่น รถบรรทุกเชื้อเพลิง รถขนส่งสารอันตราย
เมื่อนำตัวอักษรและเลขมารวมกันจะทำให้ทราบว่าใบขับขี่ ท.2 คืออะไร ซึ่งก็คือใบขับขี่สำหรับรถสาธารณะที่บรรทุกของได้เกิน 3,500 กิโลกรัม หรือรับผู้โดยสารได้เกิน 20 คนนั่นเอง
ความแตกต่างของใบขับขี่ ท.2 และ บ.2
จากข้อมูลข้างต้นที่แบ่งประเภทใบขับขี่เป็น 2 ประเภท ได้แก่ ใบขับขี่ประเภท บ. และใบขับขี่ประเภท ท. ทำให้เห็นว่าใบขับขี่ทั้ง 2 ประเภทแตกต่างกันหลัก ๆ ที่วัตถุประสงค์การใช้งาน ใบขับขี่ ท.2 คือ ใบขับขี่สำหรับผู้ที่ขับรถขนส่งสาธารณะประเภท 2 ส่วนใบขับขี่ ท.2 ใช้ขับรถอะไรบ้าง คำตอบคือรถที่ตรงตามเงื่อนไข ใบขับขี่ประเภทนี้จึงเป็นใบขับขี่สำหรับคนขับรถเมล์ รถทัวร์ หรือรถบรรทุกขนาดเล็กนั่นเอง ในขณะที่ใบขับขี่ประเภท บ.2 จะเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลที่นำมาใช้บรรทุกสิ่งของรับจ้าง หรือขนส่งผู้โดยสาร เช่น Grab Car รถแท็กซี่ที่ใช้รถยนต์ส่วนบุคคลวิ่ง โดยต้องขอจดทะเบียนแท็กซี่ส่วนบุคคลก่อน
การทำใบขับขี่ ท.2
ขั้นตอนการทำใบขับขี่ ท.2 จะคล้ายกับการทำใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป แต่จะเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบประวัติอาชญากรเข้ามาด้วย เนื่องจากผู้สอบใบขับขี่ ท.2 จะต้องขับรถขนส่งสาธารณะที่ต้องมีการเดินทางและต้องรับผิดชอบสินค้า หรือผู้โดยสาร จึงต้องมั่นใจว่าไม่ใช่บุคคลที่มีประวัติอันตราย มีขั้นตอนการทำใบขับขี่ ท.2 ดังนี้
- ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ใบรับรองแพทย์ และใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล
- แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาสอบใบขับขี่ประเภท ท.2 แล้วเจ้าหน้าที่จะจัดเอกสารสำหรับกรอกข้อมูลให้
- ทดสอบสมรรถภาพด้านต่าง ๆ มีการทดสอบตาบอดสี การทดสอบสายตาทางกว้างและทางลึก และการทดสอบการเหยียบเบรก
- เข้าอบรมข้อมูลเกี่ยวกับการขับรถ ป้ายจราจร การขับขี่ต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมงทั้งช่วงเช้าและช่วงบ่าย แต่ระยะเวลาการอบรมของสำนักงานขนส่งแต่ละพื้นที่อาจใช้เวลาไม่เท่ากัน สามารถสอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนการอบรมได้ว่าใบขับขี่ ท.2 ใช้เวลาอบรมกี่ชั่วโมง
- สอบข้อเขียน โดยจะต้องได้คะแนนผ่านเกณฑ์ 75%
- สอบข้อปฎิบัติ มีทั้งหมด 3 ท่า คือ ท่าจอดเทียบฟุตบาท ท่าเดินหน้า – ถอยหลังเป็นแนวตรง และท่าจอด – ออกรถบนทางชัน
- รอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน เมื่อตรวจสอบเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่จะเรียกตัวมาถ่ายรูป และรับบัตรกลับบ้านได้เลย
ปัจจุบันสามารถจองคิวสำหรับสอบใบขับขี่ ท.2 ออนไลน์ได้ เพื่อให้เวลาสอบทำใบขับขี่จะได้ไม่ต้องรอนาน
การทำใบขับขี่ให้ถูกประเภทเป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะใบขับขี่แต่ละประเภทจะใช้สำหรับการใช้งานรถคนละรูปแบบ การให้ความสนใจกับการใช้งานรถเป็นสิ่งสำคัญ รถที่ทำใบขับขี่ประเภท 2 จะเน้นการบรรทุกน้ำหนักและบรรทุกผู้โดยสาร หากกำลังมองหายางรถกระบะ รถที่เน้นการรับน้ำหนัก แนะนำยางรถยนต์ NEXEN N’FERA SU1 และ NEXEN Roadian HP ที่เหมาะกับรถขนาดกลางและขนาดใหญ่ ขับขี่บนทางออฟโรดได้ดี และมีประสิทธิภาพในการรีดน้ำได้ดี สนใจสอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก m.me/NEXENTH