fbpx

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คืออะไร ต่างจาก HEV และ EV อย่างไร

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คืออะไร ต่างจาก HEV และ EV อย่างไร

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดหรือที่เรียกสั้น ๆ ว่ารถ PHEV เป็นนวัตกรรมที่น่าสนใจในวงการยานยนต์ปัจจุบัน ด้วยการผสมผสานระหว่างพลังงานไฟฟ้าและเชื้อเพลิงน้ำมัน ทำให้รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการประหยัดเชื้อเพลิงและช่วยลดมลพิษ แต่ยังไม่พร้อมก้าวสู่รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คืออะไร

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle หรือ PHEV) คือ รถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนแบบผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถ PHEV สามารถชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งภายนอกผ่านการเสียบปลั๊กไฟโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเต้ารับไฟบ้านหรือสถานีชาร์จสาธารณะ นอกจากนี้ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดยังมีแบตเตอรี่ที่มีความจุมากกว่ารถไฮบริดทั่วไป ทำให้สามารถวิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนได้เป็นระยะทางที่ไกลกว่า

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดมีระบบการทำงานที่เริ่มต้นด้วยการใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ก่อน และเมื่อพลังงานไฟฟ้าลดลงถึงระดับหนึ่ง เครื่องยนต์จะเริ่มทำงานเพื่อขับเคลื่อนรถและชาร์จแบตเตอรี่ไปพร้อมกัน ด้วยเทคโนโลยีนี้ รถ PHEV จึงสามารถลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษได้อย่างมีนัยสำคัญ

รู้จักข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

รู้จักข้อดี-ข้อเสียของรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV)

เมื่อรู้หลักการทำงานของรถ PHEV กันคร่าว ๆ ไปแล้ว ทีนี้เรามาดูถึงข้อดีกับข้อเสียในการใช้งานบ้างดีกว่า 

ข้อดีของรถ PHEV

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ผสมผสานเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าและเครื่องยนต์สันดาปภายใน มอบประสบการณ์การขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูง โดยมีข้อดีหลายจุด ดังนี้

  • รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่ารถยนต์ทั่วไป สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ 30-80 กิโลเมตร
  • ช่วยลดการปล่อยมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ไม่มีไอเสียเมื่อใช้โหมดไฟฟ้า
  • มีสมรรถนะการขับขี่ดี ด้วยแรงบิดจากมอเตอร์ไฟฟ้าผสมผสานกับเครื่องยนต์
  • ไม่มีข้อจำกัดด้านระยะทางเหมือนรถไฟฟ้า 100% เพราะมีเครื่องยนต์สันดาปภายในเป็นตัวเสริม

ข้อเสียของรถ PHEV

แม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่รถปลั๊กอินไฮบริดก็มีข้อจำกัดบางอย่างที่ผู้บริโภคควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้

  • ราคาสูงกว่ารถยนต์แบบดั้งเดิมและรถไฮบริดทั่วไป เนื่องจากมีทั้งเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้า
  • มีความซับซ้อนของระบบมากกว่า อาจมีค่าบำรุงรักษาสูงกว่าเมื่อพ้นระยะรับประกัน
  • น้ำหนักรถมากกว่า อาจส่งผลต่อการขับขี่และการใช้เชื้อเพลิงในบางสถานการณ์
  • ต้องมีอุปกรณ์ชาร์จที่บ้านหรือเข้าถึงสถานีชาร์จสาธารณะซึ่งในไทยยังมีไม่มาก

รถ PHEV แตกต่างจากรถ HEV และ EV อย่างไร

รถ PHEV แตกต่างจากรถ HEV และ EV อย่างไร

การเปรียบเทียบระหว่างรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV), รถไฮบริด (HEV) และรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะช่วยให้เข้าใจข้อแตกต่างที่สำคัญได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูกันว่าต่างกันในแง่ไหนบ้าง

  • รถไฮบริด (HEV) ใช้ทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในและมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน แต่ไม่สามารถชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งภายนอกได้ พลังงานไฟฟ้าในรถ HEV มาจากการเบรกเพื่อนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Regenerative Braking) และจากเครื่องยนต์ แบตเตอรี่ของรถ HEV มีขนาดเล็กกว่ารถ PHEV มาก ทำให้วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ในระยะสั้น ๆ และความเร็วต่ำเท่านั้น
  • ขณะที่รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มีโครงสร้างคล้าย HEV แต่มีความแตกต่างที่สำคัญคือสามารถชาร์จไฟฟ้าจากแหล่งภายนอกได้ และมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่กว่า ทำให้วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ไกลกว่ามาก โดยทั่วไปรถ PHEV สามารถวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 30-80 กิโลเมตร
  • ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเป็นเครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยนต์สันดาปภายใน จึงไม่มีการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสีย รถ EV มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มาก ทำให้วิ่งได้ไกลตั้งแต่ 200-600 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แต่ต้องอาศัยการชาร์จจากแหล่งภายนอกเท่านั้น และใช้เวลาในการชาร์จที่นานกว่าการเติมน้ำมัน อีกทั้งยังต้องใช้ยาง EV ที่รองรับแรงบิดมหาศาลอีกด้วย

ตัวอย่างรุ่นรถ PHEV ที่น่าใช้งานในปัจจุบัน

ในตลาดรถยนต์ปัจจุบัน มีรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดหลากหลายรุ่นให้เลือก ตั้งแต่รถสปอร์ต รถเก๋ง รถอเนกประสงค์ (SUV) ไปจนถึงรถหรูระดับพรีเมียม

  • แบรนด์จีนมีการพัฒนารถ PHEV ที่น่าสนใจหลายรุ่น เช่น BYD มี Sealion 6 DM-i ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยและราคาที่เข้าถึงได้ Haval/GWM มี H6 PHEV ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในไทยด้วยสมรรถนะดีและราคาคุ้มค่า ขณะที่ MG มี HS PHEV ที่มีดีไซน์สปอร์ตและอุปกรณ์ครบครัน

ควรเลือกรถประเภทไหนดีในการใช้งาน

การเลือกระหว่างรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV), รถไฮบริด (HEV) หรือรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ขึ้นอยู่กับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน ดังนี้

  • หากคุณเดินทางในเมืองเป็นส่วนใหญ่ มีที่จอดรถที่บ้านพร้อมติดตั้งเครื่องชาร์จ แต่บางครั้งต้องเดินทางไกล รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงในการเดินทางประจำวัน และยังมีเครื่องยนต์สำหรับการเดินทางไกลโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟ
  • หากคุณไม่มีที่ชาร์จไฟที่บ้านหรือที่ทำงาน หรือเดินทางในระยะไกลเป็นประจำ รถไฮบริด (HEV) อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จแต่ยังคงประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีกว่ารถยนต์ทั่วไป
  • สำหรับผู้ที่ต้องการใช้พลังงานสะอาด 100% มีพื้นที่สำหรับติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน และเดินทางในระยะทางที่สอดคล้องกับความจุแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางและสถานีชาร์จ แต่ในอนาคตอันใกล้ปัญหาเหล่านี้จะลดลงเมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และโครงสร้างพื้นฐานของสถานีชาร์จเพิ่มมากขึ้น

สรุปบทความ รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) คืออะไร ต่างจาก HEV และ EV อย่างไร

รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) เมื่อเทียบกับ HEV และ EV ถือเป็นตัวเลือกที่ลงตัวในยุคที่กำลังก้าวเข้าสู่การใช้พลังงานสะอาดเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ยังมีข้อจำกัดด้านสถานีชาร์จ EV อยู่บ้าง แต่นอกเหนือจากการเลือกรถที่ใช่แล้ว การเลือกยางรถยนต์คุณภาพดีไว้ใช้งานอย่าง NEXEN TIRE ก็เป็นสิ่งที่คนรักรถไม่ควรพลาด เพราะให้ทั้งความคุ้มค่า และสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยมไปพร้อม ๆ กัน ดีกว่าฝืนใช้ยางเกินระยะจนยางแตก และต้องหาที่ปะยางให้วุ่นวายเพราะจ่ายค่ายางไม่ไหว

สัมผัสความนุ่มนวลเหนือระดับไปกับเน็กเซ็น ได้ง่าย ๆ ที่ร้านยางชั้นนำทั่วประเทศ ศูนย์บริการ B-Quik และ MMS ทุกสาขา หรือช่องทางออนไลน์ Shopee Lazada

พิเศษสุด! โปรโมชั่นรับประกันยางบาด บวม แตก ภายใน 1 ปี หรือ 25,000 กิโลเมตร เมื่อซื้อยาง 4 เส้น/ใบเสร็จ และลงทะเบียนภายใน 14 วัน สอบถามเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ หรือเฟซบุ๊ก NEXEN TIRE THAILAND